Finance

อลังการ!! เปิดพอร์ตหุ้น ‘ประกันสังคม’ ครึ่งปีแรก

8888

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรก ดัชนีผันผวนแรงโดยเฉพาะในไตรมาส 2 ปี 2561 ดัชนีปรับลดลงต่อเนื่อง  เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความกังวลผลกระทบของสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งมีโอกาสที่จะลุกลาม   บานปลายมากขึ้น ซึ่งไทยอาจจะได้รับผลกระทบในทางอ้อมไปด้วย ขณะที่เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่า กดดันเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้เงินทุนต่างชาติไหลออกไปมากกว่า 1 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ จึงเป็นความหวังที่จะช่วยประคับประคอง หรือบรรเทาผลกระทบจากเงินไหลออกในครั้งนี้

สำหรับกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย มีหลายรูปแบบ ทั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนหรือกองทุนรวม บริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนในหุ้น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือ กบข.และสำนักงานประกันสังคม

จากการสำรวจข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2561 กองทุนประกันสังคม ถือครองหุ้นไทย 58 บริษัท มีมูลค่าการลงทุน ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2561 มูลค่ารวมกว่า 2.02 แสนล้านบาท โดยเน้นถือหุ้นขนาดใหญ่ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์, กองรีท ในสัดส่วนที่มากสุด

10หุ้นใหญ่ที่ประกันสังคมถือลงทุน2

เมื่อคิดจากมูลค่าการถือครองสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย หุ้น SCC  ถือครอง 39.70  ล้านหุ้น คิดเป็น 3.31% มูลค่าการถือครอง 16,281 ล้านบาท รองลงมาหุ้น BDMS 635.23 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.1% มูลค่าการถือครองรวม 15,880 ล้านบาท หุ้น ADVANC 78.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.65% มูลค่าการถือครอง 14,648  ล้านบาท หุ้น BBL 55.32 ล้านหุ้นคิดเป็น 2.9% มูลค่าถือครอง 10,733 ล้านบาท และหุ้น AOT 161.23 ล้านหุ้น คิดเป็น1.13% มูลค่าถือครอง 10,238 ล้านบาท 

หากพิจารณาจาก สัดส่วน%การถือครองสูงสุด  พบว่า จะถือลงทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าซื้อ หรือกองรีทมากสุด และถือในสัดส่วนเกินกว่า 10%  ประกอบด้วย กองรีท WHABT หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ 25.53%รองลงมาเป็น กองรีท DREITหรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี) สัดส่วน 25.24% กองรีท SRIPANWAหรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา 25.02% กองรีท GAHREIT (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ โฮสพีทาลิตี้)  19.74%กองรีท TREIT หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน 17.27% กองรีท WHART หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท 19.73%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 สำนักงานประกันสังคมได้รายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ในรายงานการได้มาและจำหน่ายหลักทรัพย์ โดยมีการทำรายการเพียง 2 ครั้ง  คือ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 รายงานซื้อหุ้น SPALL จำนวน 0.06%ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 5.05% ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ได้รายงาน ขายหุ้นSPALI  จำนวน 0.01%ทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นภายหลังการทำรายการลดลงเหลือ 4.99%

ถ้าย้อนไปดูการเคลื่อนไหวราคาหุ้น SPALI พบว่า ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน 2561 ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดแตะระดับที่ 25.50 บาท  จากราคาตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ยอยู่ที่ 23.31 บาทต่อหุ้น ดังนั้นหากเทียบช่วงเวลาดังกล่าวจะเห็นว่า ประกันสังคมเข้ามาลงทุนหุ้น SPALI ช่วงต้นปี และขายหุ้นในเดือนมิถุนายน ดังนั้น คาดว่า น่าจะได้รับกำไรจากการลงทุนครั้งนี้เกือบ 10%

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ให้ความเห็นว่า การที่ประกันสังคมเน้นลงทุนกองทุนรีท เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระดับ 6-8% และราคาหน่วยไม่ผันผวน ทำให้สามารถรักษาสมดุลของมูลค่าสินทรัพย์ได้ดีกว่า ขณะที่การลงทุนในหุ้นและมีการซื้อและขายในบางช่วงเวลามองว่าเป็นเรื่องปกติของกองทุนขนาดใหญ่จะต้องบาลานซ์พอร์ตลงทุนให้เหมาะสมแต่ละช่วงเวลา

“ประกันสังคมเป็นกองทุนขนาดใหญ่ และเน้นลงทุนระยะยาว นโยบายการลงทุนต้องเน้นไปที่หุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและไม่ผันผวน ซึ่งกองรีทตอบโจทย์ของนโยบายการลงทุนได้ดี ส่วนรายละเอียดจะเลือกลงทุนกองรีทประเภทใดนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารของกองทุนซึ่งแตกต่างกันไป”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight