KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier เผย 4 เมกะเทรนด์ลงทุน ที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ทั่วโลก ท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ซึ่งทุกความเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนได้เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อความมั่งคั่งครั้งใหญ่ ที่จะเปลี่ยนผ่านทรัพย์สิน และรูปแบบการลงทุนไปสู่คนรุ่นใหม่ การลงทุนอย่างยั่งยืน เป็นที่ได้สนใจจากนักลงทุนมากขึ้น การเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนจากออฟชอร์ สู่ออนชอร์ ทั้งความผันผวน และความไม่แน่นอนของตลาดทุน ทำให้การจัดสรรสินทรัพย์แบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Executive Chairman, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการลงทุน เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น จนทำให้การส่งต่อความมั่งคั่งของแต่ละครอบครัวช้าลงกว่าในอดีต และกระจุกตัวกันจนเกิดเป็นการส่งต่อความมั่งคั่งครั้งใหญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในทศวรรษหน้า
สภาวะวิกฤติของสภาพอากาศ ทำให้นักลงทุนตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนแบบยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงของกฏเกณฑ์ข้อบังคับ และการพัฒนาของสถาบันการเงินที่ทำให้เกิดการนำเงินทุน กลับมาลงทุนในประเทศมากขึ้น และความผันผวนของตลาดในอัตราที่เพิ่มขึ้น ทำให้รูปแบบการจัดสรรเงินลงทุน ในแบบดั้งเดิมต้องมีการเปลี่ยนแปลง
KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier จึงได้สรุป 4 เมกะเทรนด์การลงทุนสำคัญ ดังนี้
The Great Weath Transfer คาดว่าภายในปี 2573 บุคคลผู้ที่มีสินทรัพย์สูงทั่วโลก จะส่งต่อความมั่งคั่งที่มีมูลค่าถึง 18.3 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 640 ล้านล้านบาท) และบุคคลผู้มีสินทรัพย์สูงในเอเชีย แปซิฟิกจำนวนกว่า 70,000 ราย จะส่งต่อความมั่งคั่ง มูลค่าประมาณ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 88 ล้านล้านบาท)
ทรัพย์สินดังกล่าวจะได้รับการส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีทัศนคติ รูปแบบการใช้ชีวิต และได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ ทำให้มีมุมมองที่กว้างขวางมากขึ้น และสนใจสิ่งใหม่ ๆ ต่างจากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะในด้านการลงทุน
กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ และแสวงหาโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในด้านเทคโนโลยี ดิจิทัลไฟแนนซ์ หุ้นนอกตลาด (Private Equity) และธุรกิจเงินร่วมทุน (Venture Capital)
Sustainability Revolution จากความเชื่อของ Lombard Odier ที่ว่ารูปแบบการดำเนินธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่าน จากการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิม ที่เรียกว่า W.I.L.D (Wasteful-สิ้นเปลือง Idle-เกินความจำเป็น Lopsided-ไม่ทั่วถึง และ Dirty-สกปรก) มาเป็นการดำเนินธุรกิจในรูปแบบที่เรียกว่า C.L.I.C.® (Circular- หมุนเวียนได้ Lean-เต็มประสิทธิภาพ Inclusive-เข้าถึงคนทุกกลุ่ม และ Clean-สะอาด)
การเปลี่ยนแปลงนี้ จะสร้างโอกาสในการลงทุนกว่า 5.5 ล้านล้านดอลลาร์ (กว่า 190 ล้านล้านบาท) ต่อปี ซึ่งโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ครั้งใหญ่นี้ นอกจากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางบวก และการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก ยังนำไปสู่ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้อีกด้วย
Onshorisation ก่อนหน้านี้ นักลงทุนส่วนใหญ่มักกระจายการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากมีทางเลือก และโอกาสในการลงทุนที่มากกว่า แต่ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการ และที่ปรึกษาด้านการลงทุนภายในประเทศ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุน ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนในประเทศได้ โดยที่มีโอกาส และทางเลือกไม่ต่างกัน
ในทศวรรษที่ผ่านมา ภาครัฐ และองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก ได้มีการดำเนินการเพื่อประสานงาน แลกเปลี่ยน และรายงานการตรวจสอบทรัพย์สินที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพื่อการดำเนินการด้านภาษีเพียงเท่านั้น แต่เป็นการระบุการไหลเวียนของเงินทุนข้ามพรมแดน และการถือครองความมั่งคั่งในต่างประเทศ จึงทำให้นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่นำเงินลงทุน กลับมาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น
Current Macro Environment ตลาดที่ผันผวน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่มากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับพลังงาน วิกฤติสภาพอากาศ และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้นำไปสู่ความไม่แน่นอนแก่เศรษฐกิจในระดับมหภาค ส่งผลต่อเศรษฐกิจในหลายด้าน
อาทิ วัฏจักรเศรษฐกิจจากเดิมที่จะมีระยะเวลา 7-10 ปี จะสั้นลง และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีช่วงเวลาที่เศรษฐกิจแย่ มากว่าช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดี การจัดการลงทุนด้วยการกระจายการลงทุนแบบดั้งเดิม (Traditional Asset Allocation) อาจจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อีกต่อไป แต่จะต้องเป็นการกระจายการลงทุนที่ยึดความเสี่ยงเป็นหลัก (Risk-based Asset Allocation) เพื่อตอบสนองต่อสภาพเศรษฐกิจ
จะเห็นได้ว่าโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการเปลี่ยนแปลงเกิดเร็วขึ้นในระยะเวลาที่สั้นลง มีความเป็นไปได้ที่หลายคนจะตามไม่ทัน และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีความกังวลเกิดขึ้น
KBank Private Banking ในฐานะผู้ให้บริการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า โดยนำโซลูชัน และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อนำพาลูกค้าไปถึงเป้าหมายในสถานการณ์โลกที่ผันผวนต่อเนื่องเช่นในปัจจุบัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘KBank Private Banking’ นำเสนอโอกาสสะสมความมั่งคั่ง ผ่านกองทุน ALPHA
- กสิกรไทย ให้ความรู้ ‘Decarbonize Now’ เจาะลึก 4 อุตสาหกรรม หนุนลูกค้าสู่ ‘เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ’
- ‘กสิกรไทย’ ชวนคนรุ่นใหม่เข้าโครงการ ‘KBank Young Scholarship’ ปี 67