6 วิธีปิดหนี้บัตรเครดิต ก่อนจะโดนฟ้อง!! คดีบัตรเครดิตจะเริ่มนับอายุความเมื่อใด อ่านที่นี่!!
ในปัจจุบัน “บัตรเครดิต” กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตในยุคสังคมไร้เงินสด สามารถนำไปจับจ่ายใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากสถาบันการเงิน เมื่อใช้บัตรเครดิตแล้วสถาบันการเงินจะจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการแทนเราไปก่อน จากนั้นจะเรียกเก็บเงินคืน โดยออกใบแจ้งหนี้ให้ เพื่อให้ชำระเงินดังกล่าวคืน หากชำระเงินคืนครบเต็มตามจำนวนที่ใช้ไป ตามเวลาที่กำหนด สถาบันการเงินจะไม่เก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมในการใช้บัตร
แต่หากเป็นการชำระคืนบางส่วนหรือไม่ชำระคืนหรือชำระคืนไม่ตรงตามกำหนดเวลา สถาบันการเงินจะคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม โดยแจ้งให้ผู้ใช้บัตรทราบในใบแจ้งหนี้งวดถัดไป อีกทั้งบัตรเครดิตสามารถนำไปกดเงินสดตามตู้ ATM ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ด้วยความสะดวกของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจึงเป็นที่นิยมแพร่หลายและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนทั่วไป จนมีจำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความไม่แน่นอนของชีวิต การขาดวินัยทางการเงิน หรือเกิดสถาการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้ขาดสภาพคล่อง จนกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตในที่สุด
6 วิธีปิดหนี้บัตรเครดิต ก่อนที่จะโดนฟ้อง!!
1. แจกแจงรายการค้างจ่าย
ทำตารางสรุปหนี้ค้างจ่ายทั้งหมดว่าขณะนี้มีหนี้บัตรเครดิตอะไรบ้างจำนวนเท่าไหร่บ้างดอกเบี้ยของแต่ละบัตรต่อปีเท่าไหร่เพื่อที่จะนำไปใช้วางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพื่อแบ่งสัดส่วนการจ่ายหนี้ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด
2. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
บัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้ต่อเดือนแจกแจงรายจ่ายอะไรที่จำเป็นและรายจ่ายไหนและหารายได้อย่างอื่นเพิ่มเติมจากรายรับประจำเช่นรับจ้างทำงานพิเศษ
3. ทยอยชำระหนี้
ตั้งเป้าหมายในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนทยอยชำระหนี้และปิดหนี้บัตรเครดิตลงทีละใบโดยเริ่มจากหนี้ที่สร้างภาระมากที่สุดอย่างหนี้บัตรเครดิตที่คิดอัตราดอกเบี้ยเยอะที่สุดหรืออาจเริ่มจากปิดบัตรที่มีมูลค่าหนี้น้อยสุดเพื่อตัดภาระดอกเบี้ยของบัตรเครดิตใบนั้นให้หมดไปเลยแล้วค่อยกลับมาโฟกัสการปิดหนี้บัตรเครดิตที่หนี้ก้อนใหญ่ขึ้น
4. ซื้อสินค้าด้วยเงินสด
หากยังคงใช้บัตรเครดิตจนเคยตัวหนี้เก่าที่มีอยู่ก็ไม่ลดแถมยังมีหนี้ใหม่เพิ่มพูนขึ้นมาอีกเรื่อยๆทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีกควรหัดใช้เงินสดให้เป็นนิสัยส่วนเงินอนาคตหากต้องใช้ก็ขอให้คิดและวางแผนการชำระเงินคืนให้ดีก่อนเสมอๆเพื่อที่จะได้มีเงินคงเหลือเอาไว้ปิดหนี้บัตรเครดิตที่เป็นอยู่
5. รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
เช่นการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อรีไฟแนนซ์ซึ่งสินเชื่อส่วนบุคคลมักมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปีนอกจากนี้การกู้สินเชื่อก้อนใหม่มาโปะหนี้บัตรเครดิตยังช่วยให้การบริหารจัดการหนี้ง่ายขึ้นโดยเป็นการรวมหนี้หลายๆก้อนเป็นก้อนเดียวช่วยให้ง่ายต่อการชำระอีกด้วย
6. รักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด
การสร้างความเคยชินในการวางแผนทางการเงินควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับความสามารถในการทำรายได้ตลอดจนการเข้าใจวิธีและรู้จักลงทุนให้เงินงอกเงยนับเป็นแนวทางที่จะช่วยในการปลดหนี้บัตรเครดิตตลอดจนเป็นภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับผู้ที่รักษาวินัยทางการเงินได้ในอนาคตอีกด้วย
คดีบัตรเครดิตจะเริ่มนับอายุความเมื่อใด
ในคดีบัตรเครดิตโดยทั่วไปเมื่อเจ้าหนี้ได้แจ้งกำหนดการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ทราบแล้ว เมื่อถึงกำหนดลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด อายุความจะเริ่มนับทันทีในวันถัดไป โดยมีอายุความทั้งสิ้น 2 ปีนับจากผิดนัดชำระหนี้ ถ้าหากธนาคารไม่ได้ฟ้องร้องในเวลา 2 ปี คดีก็เป็นอันขาดอายุความ ซึ่งส่งผลให้ธนาคารหมดสิทธิเรียกร้องต่อลูกหนี้ ทั้งนี้ ถึงจะขาดอายุความไปแล้ว ทางฝ่ายเจ้าหนี้สามารถยื่นฟ้องได้ โดยศาลก็จะดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
อาทิเช่น ถ้าจะให้ศาลหยิบยกเอาเรื่องการขาดอายุความขึ้นมาพิจารณานั้น ลูกหนี้ต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีในเรื่องของการขาดอายุความ ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งศาลก็จะนำมาพิจารณาตรวจสอบดูข้อเท็จจริง และถ้าหากเป็นจริงตามที่ลูกหนี้ยื่นคำให้การต่อสู้มา ทางศาลก็จะทำการ”ยกฟ้อง” คือพิพากษาให้คดีตกไป โดยไม่บังคับให้เป็นไปตามคําฟ้องของเจ้าหนี้ต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามมาตรา 193/29 กำหนดไว้ว่า เมื่อไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้
ที่มา : justicechannel.org
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนี้บัตรเครดิตท่วมหัว! เอาตัวให้รอดยังไงดี เปิด 4 วิธีแก้หนี้ที่นี่!
- 7 เทคนิคเคลียร์หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ทำง่าย ใช้ได้ผลจริง!
- หนี้ท่วมไปไม่ไหว!! ส่องเทคนิคจัดการหนี้บัตรเครดิต ทำง่าย ใช้ได้ผลจริง