Finance

KBank Private Banking ชี้ ‘ภาษี-ราคาที่ดิน’ 2 จุดเปลี่ยนสำคัญ กระทบทรัพย์สินครอบครัว

KBank Private Banking ชี้ การแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีระหว่างประเทศ-ราคาประเมินที่ดิน จุดเปลี่ยนสำคัญกระทบทรัพย์สินครอบครัว แนะเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเก็บรักษา ส่งต่ออย่างยั่งยืน

KBank Private ​Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) ผู้นำบริการที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินครอบครัวเจ้าแรกในไทย จัดงานสัมมนา Family Wealth Planning Outlook 2023 ในหัวข้อ รับมือการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายและภาษีที่ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินของครอบครัว

shutterstock 1120352396

สำหรับ 2 จุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีระหว่างประเทศ และภาษีที่ดินในปี 2566 ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

นายพีระพัฒน์ เหรียญประยูร Managing Director, Wealth Planning and Non Capital Market Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า นโยบายการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีระหว่าง สรรพากรไทยและรัฐบาลชาติอื่น ๆ ภายใต้ความตกลง Common Reporting Standard หรือ CRS กำลังจะมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

สำหรับไทย ในเดือนกันยายน กรมสรรพากร จะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานในต่างประเทศ และจะส่งข้อมูลภายในเดือนมิถุนายนของทุก ๆ ปีต่อจากนี้เป็นต้นไป

S 172441664
พีระพัฒน์ เหรียญประยูร

ในทางกลับกัน สรรพากรในต่างประเทศก็มีหน้าที่รวบรวมข้อมูล และนำส่งข้อมูลกลับมาให้กรมสรรพากรไทยเช่นกัน โดยในปัจจุบันจะเป็นระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการร้องขอ (Automatic Exchange) และเป็นการแลกเปลี่ยนเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูง เกิดความตื่นตัวในการวางแผนทรัพย์สินครอบครัวมากขึ้น

มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ หรือ CRS ตามพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ.2566 ได้กำหนดเงื่อนไขของการรายงานไว้ ดังนี้

ผู้มีหน้าที่รายงาน ได้แก่

1. สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน

2. บริษัทหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

3. สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น

4. ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต

5. ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

6. ผู้ดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา

7. ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตตามประกาศของคณะปฏิวัติฯ

8. ทรัสตีตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน

S 172441665

บัญชีที่จะถูกรายงาน ได้แก่ 1. บัญชีรับฝากเงิน 2. บัญชีรับฝากสินทรัพย์ 3. บัญชีเพื่อการลงทุน 4. กรมธรรม์ประกันชีวิต

ส่วน​ข้อมูลที่จะถูกรายงาน ได้แก่ 1. ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 2. วัน เดือน ปีเกิด และสถานที่เกิด(กรณีบุคคลธรรมดา) 3. เลขที่บัญชี 4. ยอดเงินในบัญชีหรือมูลค่าเงินสดในกรมธรรม์ ดอกเบี้ยที่ได้รับหรือผลประโยชน์อื่น / จำนวนคงเหลือหรือมูลค่าของบัญชี ณ วันสุดท้ายของปีปฏิทิน

ทั้งนี้ KBank Private Banking มองว่า การบังคับใช้ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษี ไม่ว่าจะเป็น การแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีระหว่างสรรพากรไทยและรัฐบาลสหรัฐฯ (FATCA) รวมถึงรัฐบาลชาติอื่นๆ (CRS) จะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนภาษีในองค์รวม ทั้งภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคล สำหรับบ้านที่มีธุรกิจในต่างประเทศ หรือมีการจัดโครงสร้างการถือครองทรัพย์สินในต่างประเทศ (Trust) รวมถึงภาษีมรดกที่เป็นมรดกที่อยู่ในต่างประเทศด้วย

shutterstock 1066416791 1

ขณะที่ในอนาคต คาดว่า การเรียกเก็บข้อมูลทางภาษี จะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องมาจากมีการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น การทำธุรกรรมเงินสดจะลดน้อยลง

นอกจากนี้ การเก็บภาษีในอนาคตจะใช้ระบบ AI มาพัฒนาการเก็บภาษี ทำให้ภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ของผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้มากยิ่งขึ้น

ดังนั้น KBank Private Banking มองว่า ลูกค้ากลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูงต้องตื่นตัวในการวางแผนทรัพย์สินครอบครัวและต้องการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านภาษีมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ด้าน นางกรกช อรรถสกุลชัย Chief – Non Capital Market Solution Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แม้ปีนี้จะเข้าสู่ปีที่ 4 ที่ภาครัฐมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่ผู้ครอบครองที่ดินยังสับสน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทุก ๆ ปี

S 172441662
กรกช อรรถสกุลชัย

สำหรับปี 2566 สิ่งที่กระทบต่อการคำนวณภาษีก็คือ การเปลี่ยนราคาประเมินที่ดินโดยกรมธนารักษ์ระหว่างปี 2566-2569 ซึ่ง 50% ของพื้นที่ที่ราคาประเมินไม่เปลี่ยนแปลง แต่มี 39% ของพื้นที่ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น และ 11% ของพื้นที่ที่ราคาประเมินปรับลดลง

ราคาประเมินที่ดินที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมากคือ ที่ดินในบริเวณที่ราคาประเมินกับราคาตลาดมีความแตกต่างกันมาก

ภาษีที่ดินที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากฐานภาษีและอัตราภาษีที่เพิ่มสูงขึ้น แต่การลดหย่อนจากการนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ลดลง ดังนั้น แทนที่จะปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า KBank Private Banking แนะนำให้เจ้าของที่ดินพิจารณาใช้ประโยชน์ที่ดิน ดังนี้

1. เชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้

2. ใช้ประโยชน์เชิงเกษตรเพื่อลดอัตราภาษี

3. ใช้ประโยชน์สาธารณะโดยการร่วมกับภาครัฐเพื่อยกเว้นภาษี เป็นต้น

นอกจากนี้ KBank Private Banking ยังนำเสนอบริการให้คำปรึกษาและบริหารจัดการในการแปลงทรัพย์สินที่ดิน มาเป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุนโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน (Land Loan for Investment) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทน

S 172441666

การลงทุนดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย และเพียงพอในการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ทั้งนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน มีปัจจัยหลายอย่างที่ผู้ถือครองที่ดิน และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องปรับตัวให้เท่าทันกับตลาด ซึ่งไม่ต่างกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีทั้งผลตอบแทนที่น่าสนใจ และความเสี่ยงที่ต้องระวัง

ผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างการเติบโตให้กับสินทรัพย์ที่มี และไม่ติดกับดักการลงทุน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ของ KBank Private Banking ได้ที่ https://kbank.co/3ETkS5v

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo