Finance

เปิดสถิติ ‘ราคาทองคำ’ ทะยานไม่หยุด! จ่อพุ่งทุบสถิติใหม่

นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา ปัจจัยลบหลายอย่าง ที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองคำ ที่ถือเป็นแหล่งลงทุนปลอดภัย ดันราคาสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งมองว่า ราคาทองยังมีโอกาสดีดตัวสูงขึ้นไปอีก หลังเกิดวิกฤติธนาคาร และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย โดยมีแนวโน้มว่า ในเร็ว ๆ นี้ อาจพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และจะทรงตัวอยู่ในระดับดังกล่าว ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ทองคำ

ข้อมูลจากรีฟินิทีฟ ดาต้า แสดงให้เห็นว่า สถิติเดิมที่ราคาทองในตลาดโลกเคยทำไว้นั้น เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการที่ธนาคารกลางหลายประเทศพากันเข้าซื้อทองอย่างต่อเนื่อง ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนให้ราคาทะยานสูงขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง

แรนดี สมอลวูด ซีอีโอวีตัน พรีเชียส เมทัลส์ ผู้ค้าโลหะมีค่าล่วงหน้ากับเหมืองแร่ แสดงความเห็นว่า การเข้าซื้อทองของธนาคารกลาง ส่งผลดีต่อราคาทองในระยะยาวอย่างชัดเจน

ขณะที่ ฟิตช์ โซลูชันส์ คาดการณ์ว่า ราคาทองจะขึ้นไปแตะสถิติเดิมที่ 2,075 ดอลลาร์ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และคาดว่า ราคาจะยังสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ในปีต่อ ๆ ไป เมื่อเทียบกับระดับก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด

ทองคำ

เดือนมีนาคม ราคาทะยานแล้วเกือบ 2,000 บาท 

สำหรับในไทยนั้น รายงานของ ศูนย์วิจัยทองคำ ระบุว่า ราคาทองจะพยายามแกว่งตัว เพื่อรักษาระดับ และสร้างฐานราคา ซึ่งหากราคาปรับตัวลดลงมาในระดับจำกัด หรือสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าน่าจะเกิดแรงซื้อกลับเข้ามา และทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านได้อีกครั้ง

ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ราคาทองในประเทศ ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม ซึ่งนับถึงวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำแท่งในประเทศ ซื้อขายในเดือนมีนาคม มีราคาพุ่งขึ้นมาแล้วถึง 1,750 บาท แตะระดับสูงสุดที่ 32,150 บาท ถือเป็นราคาสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยทองคำ บอกด้วยว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองยังคงมีความผันผวน โดยมีโอกาสดีดตัวขึ้นในช่วงสั้น ถึงแม้การเคลื่อนไหวจะถูกกดดันจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งนักลงทุนอาจจับจังหวะการแกว่งตัวของราคา เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง และรอขายทำกำไร เมื่อราคาเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทองคำ

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาทองล่าสุด รวมถึง สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ และจีน ที่ตึงเครียดมากขึ้น ตั้งแต่เกิดเหตุบอลลูนสอดแนม อีกทั้งจีนยังแสดงท่าทีเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ เพื่อสกัดเงินเฟ้อพุ่งสูง แม้จะเกิดวิกฤติธนาคารล้มขึ้นมาก็ตาม ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างจับตาอย่างใกล้ชิดถึงการเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของเฟด และผลกระทบที่จะเกิดต่อราคาทอง

ทองคำ

นิคกี ชีลส์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โลหะ จากเอ็มเคเอส แพมป์ ผู้ค้าโลหะมีค่า แสดงความเห็นว่า โดยรวมแล้ว เฟดจะต้องเลือกระหว่างเงินเฟ้อที่สูงขึ้น หรือเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็จะช่วยหนุนราคาทองให้สูงขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo