Economics

YLG ปรับเป้าหมายราคาทองคำปีนี้ใหม่ สู่ 2,075-2,200 ดอลลาร์/ออนซ์

YLG ปรับเป้าหมายราคาทองปีนี้ใหม่ สู่ 2,075-2,200 ดอลลาร์/ออนซ์ รับปัจจัยหนุนนักลงทุนกังวลวิกฤติภาคธนาคารสหรัฐและยุโรปอาจไม่จบง่าย

YLG ปรับเป้าหมายราคาทองคำปี 2566 ใหม่ เป็น 2,075-2,200 ดอลลาร์/ออนซ์ รับปัจจัยหนุนนักลงทุนกังวลวิกฤตภาคธนาคารสหรัฐและยุโรปอาจไม่จบง่าย ส่งผลเฟดเติมเงินสู่ระบบและมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง ดันทองคำทะยานทะลุ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ จับตาหากเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยและเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ มีลุ้นขึ้นทดสอบ 2,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ทองคำในประเทศมองกรอบ 33,800 บาท/บาททองคำ ชี้พอร์ตลงทุนทองคำที่ดีควรรอยู่ที่ 5-15% ของพอร์ตรวมและเตือนไม่ควรไล่ราคาเสี่ยงเกิดแรงขายทำกำไร

ราคาทองปีนี้

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ตั้งต้นปีจนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2566 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วประมาณ 7.85% จากที่เปิดตลาดราว 1,823 ดอลลาร์/ออนซ์ มาทำระดับสูงสุดของปีที่ 2,009 ดอลลาร์/ออนซ์ ถือเป็นการทำราคาสูงสุดใหม่ทุกวันนับจากวันศุกร์ที่ผ่านมาและเป็นการปรับขึ้นสูงสุดนับจากเดือนเมษายน 2565 ถือว่าเข้ามาใกล้จุดสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 2,075 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการกลับเข้ามาเติมเงินสู่ระบบของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเกิดปัญหาการขาดสภาพคล่องของกลุ่มธนาคารในสหรัฐและลุกลามมาสู่ยุโรป ซึ่งปัจจัยนี้ยังส่งผลให้นักลงทุนจับตาดูธนาคารแห่งอื่น ๆ ที่เผชิญปัญหาเดียวกันอาจจะมีมากกว่าที่เป็นอยู่

ราคาทองปีนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเฟดและกระทรวงการคลังของสหรัฐจะออกมาตรการให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่เติมสภาพคล่องสู่ระบบแต่ธนาคารท้องถิ่นของแต่ละรัฐมีจำนวนมาก จึงทำให้นักลงทุนยังมองว่ามีความเสี่ยง ดังนั้นสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำจึงมีแรงซื้อเข้ามา นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอความแข็งกร้าวในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ก็เริ่มคงเข้าซื้อทองคำ จึงหนุนให้ทองคำพุ่งอย่างแข็งแกร่ง

“จากปัจจัยเหล่านี้วายแอลจีได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำจากต้นปีที่ประเมินไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็น 2,075-2,200 ดอลลาร์/ออนซ์”

ราคาทองปีนี้

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำในช่วงนี้หากต้องการเข้าซื้อสามารถทำได้แบบเก็งกำไรระยะสั้นเพราะราคาทองคำปรับขึ้นไปค่อนข้างมากแล้ว มีโอกาสเจอแรงขายทำกำไรแถว ๆ 2,075-2,200 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม หากต้องการซื้อสะสม แนะนำให้รอราคาปรับตัวลง แถว ๆ 1,804-1,786 ดอลลาร์/ออนซ์ คิดเป็นเงินไทยประมาณกรอบแนวรับ 29,350-29,100 บาทต่อบาททองคำ แนวต้าน 33,800 บาทต่อบาททองคำ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาทองคำจะเป็นทิศทางแกว่งตัวสู่ขาขึ้น แต่ยังคงแนะนำสัดส่วนการลงทุนทองคำที่ดีควรมีทองคำ 5-10% ของพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนรวม โดยไม่แนะนำให้ไล่ราคาเพราะทองคำขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดอาจจะมีแรงขายทำกำไรได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK