Stock - Finance

วิเคราะห์ ‘AOT’ จับทิศทางลม หุ้นเทิร์นอะราวด์! 

ทอท. วันนี้ขอกลับมาพูดถึงหุ้นมหาชนอย่าง AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ที่กระแสแผ่วไปตั้งแต่ต้นปี 2563 ยาวมาถึงตอนนี้ ก็นับเป็นเวลากว่า 22 เดือนแล้วที่หุ้น AOT ไม่ได้อยู่ในเรดาร์ของนักลงทุนไทยเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว

ทอท. หุ้นเทิร์นอะราวด์แห่งปี

แต่ในวันนี้เหมือนว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มสดใสอีกครั้ง หลายคนเริ่มกลับมาสนใจ AOT และคาดว่า จะเป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์แห่งปี เมื่อรัฐบาลเคาะเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่าวชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดส จาก 46 ประเทศความเสี่ยงต่ำ สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ทางอากาศโดยไม่ต้องกักตัว

ประเด็นนี้เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น AOT อย่างมาก เพราะถือเป็นประตูด่านแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจะทำให้บริษัทสามารถมีรายได้จากการกิจการการบินกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากในปี 2563 ที่ผ่านมา AOT มีรายได้ลดลงกว่า 48% เหลือเพียง 33,129 ล้านบาท

 ทอท.

ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปี 2564  เป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปีที่ประสบภาวะขาดทุน  มีรายได้เพียง 6,073 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับฐานปกติที่ AOT จะกวาดรายได้รวมได้ปีละกว่า 50,000 – 60,000 ล้านบาท 

ผลประกอบการ AOT ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

ปี 2560 รายได้รวม 56,744 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 20,683 ล้านบาท

ปี 2561 รายได้รวม 62,735 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 25,170 ล้านบาท

ปี 2562 รายได้รวม 64,994 ล้านบาท กำไรสุทธิ 25,026 ล้านบาท

ปี 2563 รายได้รวม 33,275 ล้านบาท   กำไรสุทธิ 4,320 ล้านบาท

งบครึ่งปี 2564 รายได้รวม 6,073 ล้านบาท  ขาดทุนสุทธิ -11,164 ล้านบาท

ทอท.

เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่ทยอยไหลลงเรื่อยจากจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ระดับ 80.25 บาท โดยเคยลงลึกสุดไปถึง 49 บาท ในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ซึ่งถึงแม้ว่าในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด หุ้น AOT จะยังมีแรงซื้อ-ขาย เข้ามาเก็งกำไรบ้าง ทำให้มีช่วงที่ราคาวกตัวขึ้น แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ ไม่ได้เป็นเทรนด์ขาขึ้นยาวๆ เหมือนที่เคยทำได้เป็นเด้งๆ แบบในอดีต

AOT เจาะจุ ดแข็งหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปิดประเทศ

การที่เปิดประเทศได้ และจำนวนผู้โดยสารต่างประเทศฟื้นตัวขึ้น แน่นอนว่ามีหุ้นหลายกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ เช่น สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร แต่ก็ต้องยอมรับทุกธุรกิจที่ว่ามาล้วนมีคู่แข่งจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับ AOT เป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่ง แทบจะผูกขาดในธุรกิจท่าอากาศยานของไทย 

โดยบริหารสนามบินทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, แม่ฟ้าหลวง เชียงราย, หาดใหญ่ และภูเก็ต ทว่าจุดที่น่าสนใจคือ 2 สนามบินอย่างสุวรรณภูมิ กับ ดอนเมือง มีสัดส่วนผู้โดยสารรวมกันเกือบ 75% ของทั้งประเทศ ทำให้จำนวนผู้โดยสารเข้าออกประเทศ ยังไงก็ต้องผ่านมือ AOT แทบทั้งนั้น  ถือเป็นเม็ดเงินมหาศาลที่จะกลับมาเข้ากระเป๋า AOT

ทอท. รับเปิดประเทศ 

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า AOT จะเริ่มพลิกกำไรตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 โดยมีปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น คาดว่าในปี 2565 จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ที่ 40 ล้านคน และเพิ่มเป็น 90 ล้านคนในปี 2566 พร้อมปรับราคาเป้าหมายหุ้น AOT เป็น 75 บาท ให้คำแนะนำ “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” เพราะ AOT ถือเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรง จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เลือก AOT เป็น Top Picks ของธีมเปิดประเทศรอบล่าสุด เนื่องจากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ยังค่อนข้าง Laggard แต่มีโอกาสฟื้นตัวโดดเด่นกว่าตลาดในระยะกลางถึงยาว และที่สำคัญคือ AOT ยังเป็นเป้าหมายอันดับต้น ๆ ของนักลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ในระยะถัดไปอีกด้วย

โดยส่วนตัวแล้ว AOT เป็นหุ้นตัวนึงที่อยู่ในใจใครหลายคน  ถ้ามองเป็นการลงทุนระยะยาว การรีบทยอยซื้อสะสมในช่วงนี้ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะ AOT ยังมีจุดแข็งในเรื่องฐานะการเงิน พื้นฐานธุรกิจ แถมยังมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกด้วย 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน