Stock - Finance

สตอรี่ใหม่ ‘DELTA’ ขยายกำลังผลิต EV ต่อยอดสู่เมกะเทรนด์ AI

สตอรี่ใหม่หุ้น DELTA ขยายกำลังผลิต EV พร้อมต่อยอดสู่เมกะเทรนด์ AI

เรียกว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ที่น่าสนใจของหุ้น DELTA บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมี Market Cap. ระดับ 9 แสนล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของตลาดหุ้นไทย

ล่าสุด DELTA เปิดโรงงานใหม่แห่งที่ 8  นิคมอุตสาหกรรมบางปู มูลค่าการลงทุนเกือบ 3,000 ล้านบาท สำหรับขยายกำลังการผลิตและศูนย์วิจัยผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) คาดจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดติดตั้งสายการผลิตครบ ภายในเดือนตุลาคมปีนี้ พร้อมช่วยหนุนให้รายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ EV ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์ จากปีก่อนที่ 1,200 ล้านดอลลาร์

DELTA

ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ของ DELTA มีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์การจัดการพลังงาน, เครื่องชาร์จในตัว, ตัวแปลง DC/DC, ผลิตภัณฑ์ระบบส่งกำลัง, Traction inverter และ Traction motor ตลอดจนโซลูชันการจัดการความร้อนและอุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีลูกค้าระดับโลก ได้แก่ ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำจากยุโรป, สหรัฐ  และญี่ปุ่น

DELTA
ภาพ:https://deltathailand.com/th

บทวิเคราะห์ บล. ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า พบความน่าสนใจ 3 ด้าน หลังจากการเยี่ยมชมโรงงานใหม่ของ DELTA ที่อำเภอบางปู และพูดคุยกับผู้บริหารบริษัท ดังนี้

1.  กลุ่มธุรกิจ AI มองว่าเป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตสูง แม้บริษัทจะไม่ได้เปิดเผยรายได้จากกลุ่มนี้ว่าเป็นเท่าไหร่ แต่หากดูยอดขาย AI ของ DELTA ไต้หวันปี 2566 อยู่ที่ 5% ของยอดขาย และปี 2567 เป้าอยู่ที่ 10% จึงคาดว่ายอดขายของบริษัทก็จะมีแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน

2.  กลุ่ม EV แม้ระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาประท้วงในสหรัฐ  ทำให้ยอดขายชะลอตัว แต่ระยะยาวผู้บริหารมองว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดจะเพิ่มการผลิต Off-board charger ในไทยมากขึ้นจากปัจจุบันจะผลิตที่จีนและสโลวาเกีย

DELTA
ภาพ:https://deltathailand.com/th/

3.  ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หรือ จีน-ไต้หวัน ผู้บริหารไม่กังวลกับประเด็นเหล่านี้ เพราะมีการขยายฐานการผลิตรองรับไปหลายประเทศแล้ว โดยยังเชื่อว่าเมกะเทรนด์จะเป็นตัวขับเคลื่อนอุปสงค์ และทิศทางของบริษัทมากกว่า

มุมมอง บล. ลิเบอเรเตอร์ ประเมินว่าราคาหุ้น DELTA ซื้อขายบน P/E ปี 2567 ที่ 46 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และคาดว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมานั้นน่าสนใจกลับมาลงทุนตามรอบการฟื้นตัวอีกครั้ง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 90 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่าโรงงานใหม่แห่งที่ 8 จะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาวของ DELTA เพราะจะทําให้กําลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว และจะรองรับคําสั่งซื้อใหม่ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าเพราะฉะนั้น เชื่อว่า DELTA ยังคงมีสตอรี่เกี่ยวกับการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV และ AI ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลกอนาคต คงคําแนะนํา NEUTRAL โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 70 บาทต่อหุ้น

 

นอกจากนี้ บริษัทคงมองว่า EV power เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สําคัญ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ก็มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมากเช่นกัน ปัจจุบัน DELTA อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรรวมถึง NVIDIA แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เบื้องต้นคาดว่า “เดลต้าประเทศไทย” กําลังดําเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกับ “เดลต้าไต้หวัน”

แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจของ DELTA คาดว่ากําไรสุทธิจะเติบโต 3.4% ในปี 2567 จากยอดขายที่เติบโต 12% โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการใช้งานระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (e-mobility) จากเทรนด์ EV อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกลุ่มโซลูชันประหยัดพลังงานสําหรับธุรกิจ data center telecom power และการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคาดจะเติบโต 10-15% ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% ของค่า royalty fee ที่จ่ายให้กับบริษัทแม่ (เดลต้าไต้หวันซึ่งถือหุ้น DELTA อยู่ 65%) และค่าใช้จ่ายภาษีจะส่งผลกระทบต่อกําไรในปี 2567

สุดท้ายนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของหุ้น DELTA ณ วันที่ 29 มีนาคม 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ 74.50 บาทต่อหุ้น ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี -32.27% ย้อนหลัง 6 เดือน -14.37% และตั้งแต่ต้นปี -18.36% ถือเป็นช่วงที่ราคาหุ้นย่อตัวลงมาพักฐานพอสมควร

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน