Stock - Finance

โอกาสของ ‘GULF’ อัพไซด์จากธุรกิจใหม่

โอกาสของ “GULF” อัพไซด์จากธุรกิจใหม่ อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล โอกาสในการสร้างฐานกําไรใหม่ ๆ และต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง 

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นหุ้น Underperformed ตลาด โดยราคาหุ้นแบบ Absolute ปรับตัวลดลง 15% และหากเทียบแบบ Relative to index จะลดลง 2%

ขณะเดียวกันหากดูเฉพาะช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศอัตรา Ft ของช่วงเดือนมกราคม – เมษายน 2567 เราก็พบว่าราคาหุ้น GULF เคลื่อนไหวแย่กว่าหุ้นในกลุ่มทั้ง BGRIM และ GPSC ซึ่งมองอีกมุมจะเห็นว่าราคาหุ้น GULF ยังคง Laggard และอยู่ในจุดที่น่าสนใจมากในอนาคต

ความน่าสนใจของ GULF คือ มีอัพไซด์จากแผนขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ อย่างสินทรัพย์ดิจิทัล โดยบทวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส รายงานว่า จากสัมมนา Gulf Binance Digital Asset Forum  ผู้บริหารให้มุมมองถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัลในปัจจุบันว่า ได้เข้ามามีบทบาทสําคัญในชีวิตประจําวันของโลกมากยิ่งขึ้น จึงได้เล็งเห็นถึงโอกาส และศักยภาพการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว และเริ่มต้นพัฒนาธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Gulf:Binance โดยคาดหวัง synergy จากการใช้จุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท

สินทรัพย์ดิจิทัล

ประเด็นดังกล่าวถือเป็นมุมมองเชิงบวกในระยะยาวของ GULF จากโอกาสในการสร้างฐานกําไรใหม่ ๆ และต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง แม้ว่าปัจจุบันธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ซึ่งการเติบโตยังต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วน

ศูนย์ซื้อขายดิจิทัลแพลตพอร์มของ GULF จะได้ประโยชน์จากการใช้ Ecosystems ที่แข็งแกร่งของ Binance รวมทั้งยังได้ประโยชน์จากช่องทางฐานลูกค้าที่กว้างขวางของ AIS ร่วมกันผลักดันธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเป้าหมายหลักของบริษัทจะมุ่งสู่การขึ้นเป็นผู้นําอันดับ 1 ของธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ทั้งในด้านของการซื้อขาย การสร้าง ecosystems และ partner ผ่านกลยุทธ์หลัก 5 ประการ ได้แก่

1. มุ่งเน้นผู้ใช้งานให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี

2. มุ่งสร้างและปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์ม

3. สร้างชุมชนที่มีความรู้ และผลักดันให้มีส่วนร่วมในสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น

4. ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ลูกค้า

5. มีการกํากับดูแลตามกฏระเบียบ เพื่อผลักดันธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

สินทรัพย์ดิจิทัล

สำหรับแนวโน้มตลาดในปัจจุบัน อัตราการยอมรับและใช้คริปโตในตลาดโลกอยู่ที่ราว 4.2% ของประชากรทั้งหมด หรือราว 420 ล้านผู้ใช้งาน ดังนั้น ผู้บริหารจึงมองเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลว่าจะยังเกิดขึ้นได้อีกมาก

นอกจากนี้ บทวิเคราะห์ บล. เมย์แบงก์ ประเมินว่ากำไรหลักปีนี้ของ GULF จะอยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านบาท เติบโต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้แรงหนุนหลักมาจากการขยายกำลังการผลิต 20%  ส่วนใหญ่จะมาจาก

1. การ COD ของโครงการ GPD หน่วยที่ 3 จำนวน 464 MW และหน่วยที่ 4 จำนวน 464 MW

2. การ COD ของโครงการหินกองยูนิตที่ 1 จำนวน 377 MW

ในขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ของบริษัทจะดีขึ้น เนื่องจากแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติน่าจะเริ่มลดลง โดยกำลังการผลิต SPP คิดเป็น 16% ของกำลังการผลิตรวมทั้งหมดของ GULF จึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 57 บาทต่อหุ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน