“BEM” ดีเกินคาด! มีโอกาสมากมายรออยู่ข้างหน้า ปี 2566 มีรายได้ 16,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17% กำไรเพิ่มขึ้น 43% บอร์ด BEM ยังเคาะจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.14 บาทต่อหุ้น
“BEM” ดีเกินคาด!โดดเด่นและวิ่งแรงทีเดียว สำหรับผลประกอบการประจำปี 2566 ของ BEM หรือ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เมื่อรายงานรายได้ 16,375 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17% และมีกำไรสุทธิ 3,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43% ถือเป็นกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติที่เป็น New High ของบริษัท
ในปี 2566 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 390,260 เที่ยว โตจากปีก่อน 44% สามารถทุบสถิติปริมาณผู้โดยสารรถไฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 526,900 เที่ยว เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ล่าสุดยังมีสถิติ New High เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ 558,656 เที่ยว ในส่วนของทางพิเศษมีรถใช้บริการเฉลี่ย 1.12 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% ปริมาณผู้ใช้ทางกลับมาเกินกว่า 90% เทียบกับปีก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19
BEM ดีเกินคาด ปันผลเพิ่ม ซื้อหุ้นคืน สร้างความเชื่อมั่น
นอกจากนี้ บอร์ด BEM ยังเคาะจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.14 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 12 มีนาคม 2567 และวันจ่ายปันผล 3 พฤษภาคม 2567 อีกทั้งยังมีมติ อนุมัติโครงการ “ซื้อหุ้นคืน” เพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ไม่เกิน 450 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวน 2.94% ซึ่งจะเป็นการซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ถึง 4 กันยายน 2567
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด, เพื่อเพิ่ม ROE และ EPS, เพื่อแสดงว่าบริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างรายได้ในอนาคต และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทในศักยภาพการสร้างรายได้ และกำไรในอนาคตของบริษัท รวมถึงแสดงถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท
เรียกได้ว่าเป็น 3 ปัจจัยที่หนุนราคาหุ้นได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการที่ออกมาดีเกินคาด การประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติม และเรียกความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นด้วยการประกาศซื้อหุ้นคืน
BEM ดีเกินคาด นักวิเคราะห์มองอย่างไร
บล. พาย ประเมินว่า แนวโน้มไตรมาส 1 ปี 2567 BEM จะสดใสต่อเนื่อง เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเดือนมกราคมแตะระดับ 4.23 แสนเที่ยวต่อวัน ประกอบกับคาดว่าภายในปีนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และทางด่วนชั้นที่ 2 ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.30 บาท โดยมี Upside จากโครงการในอนาคตข้างต้น
บล. เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์ว่า BEM ยังมีโอกาสมากมายรออยู่ข้างหน้า เพราะการเติบโตของธุรกิจยังมีต่อเนื่อง ทั้งที่มาจากฐานธุรกิจเดิมที่เติบโตขึ้นตามจํานวนผู้ใช้บริการ และโอกาสคว้างานใหม่จากสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ รวมถึงโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 ที่จะมีความชัดเจนในปีนี้ จึงให้น้ำหนักลงทุน Outperform ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 11.00 บาท
โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 BEM มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เงินฝาก และหน่วยลงทุน จํานวน 1,853 ล้านบาท และมีเงินสดรับจากการออกหุ้นกู้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อีก 5,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับกระแสเงินสดจากการดําเนินงานในช่วง 6 เดือนข้างหน้า จึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชําระหนี้และการซื้อหุ้นคืนตามโครงการดังกล่าว ดังนั้น การประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นการแสดงออกถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างรายได้ในอนาคตของบริษัท และเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกที่มองเห็นว่าราคาหุ้น BEM อยู่ต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมมากเกินไป
BEM ดีเกินคาด ซื้อหุ้นคืนยังช่วยป้องกัน downside
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ยังคงคําแนะนํา Outperform สําหรับ BEM และราคาเป้าหมายที่ 9.0 บาท โดยมี upside อีก 1.5 บาท จากโครงการรถไฟฟาสายสีส้มตะวันตก ทั้งนี้ทีมวิเคราะห์ยังชื่นชอบ BEM เนื่องจากกําไรมีแนวโนมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนยังช่วยป้องกัน downside ต่อราคาหุ้นด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- BEM ปลื้ม! กำไรปี 66 ทำนิวไฮ จ่ายเงินปันผลเพิ่ม อานิสงส์ ‘เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว’ โต
- ‘BEM’ วิ่งต่อตามจังหวะของตัวเอง
- รถไฟฟ้ากำลังไปได้สวย หนุน ‘BEM’ กำไรทุบสถิติในรอบ 5 ปี
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg
