Stock - Finance

โอกาสลงทุนปี 2567 ตลาดไหนน่าลงทุน?

โอกาสการลงทุนปี 2567 ขาขึ้นหรือขาลง ตลาดไหนน่าลงทุน? สินทรัพย์อะไรมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น 

ในปี 2567 สภาวะการลงทุนทั่วโลกจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นประเทศไหนที่น่าสนใจ สินทรัพย์อะไรมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น บทความนี้ถือโอกาสสรุปมุมมองการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ พร้อมแนวโน้มเศรษฐกิจ จากบทวิเคราะห์ของ FINNOMENA FUNDS Investment Outlook โดยย่อยออกมาเป็น 10 ข้อเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปทำการบ้านต่อได้เลย

1. FINNOMENA ให้ธีมการลงทุนในปีหน้าว่า “2024 A Year of Two Halves” แบ่งเป็น 2 ครึ่งชัดเจน คือ ครึ่งปีแรก Disinflation Boost เป็นโอกาสลงทุนในช่วงที่ราคาสินทรัพย์เป็นขาขึ้น เช่น หุ้นสหรัฐ  และหุ้นยุโรป จากแรงหนุนของเงินเฟ้อที่เป็นขาลงชัดเจน ส่วนครึ่งปีหลัง Stay Nimble เป็นช่วงที่นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวัง หันมากระจายความเสี่ยงมากขึ้น ผ่านทองคำ ค่าเงินดอลลาร์ และตราสารหนี้คุณภาพ

2. จะเป็นปีที่ตราสารหนี้น่าสนใจที่สุดในรอบทศวรรษ A Once-in-a-Decade Opportunity โดยมองว่าเป็นปีทองของการลงทุนตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 20 ปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนมีความน่าสนใจ ยิ่งเมื่อพิจารณาโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต จึงหนุนให้ตราสารหนี้ที่ลงทุนไปแล้วนั้นมีโอกาสจะสร้าง capital gain ได้อีกทาง ทำให้ผลตอบแทนรวมของตราสารหนี้สูงขึ้นตามลำดับ

shutterstock 211162584523

3. แรงกดดันเงินเฟ้อคลี่คลาย คาดหวัง FED และ ECB จะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะดีต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง หนุนนำตลาดมีโอกาสปรับตัวเป็นขาขึ้น สอดคล้องกับสถิติว่าหลัง FED หยุดขึ้นดอกเบี้ย หุ้นจะปรับขึ้นโดยมี Upside ประมาณ 34%

4. เศรษฐกิจสหรัฐ ไม่น่าจะเกิด Recession แต่จะชะลอตัวแบบ Soft Landing เพราะดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ LEI เริ่มเห็นสัญญาณทําจุดตํ่าสุดไปแล้ว

5. โอกาสของหุ้น Laggard หลังจากที่ปี 2566 เป็นปีทองของหุ้นสหรัฐ  ขนาดใหญ่ 7 ตัวที่เรียกว่า Magnificent-7 ประกอบด้วย Amazon, Apple, Alphabet, Meta Platforms, Microsoft, Nvidia และ Tesla ซึ่งวิ่งมากกว่า 80% ทำให้ปี 2567 จะเป็นโอกาสของหุ้นขนาดกลางบ้าง ด้วย Valuation ที่น่าสนใจ และมีโอกาสเติบโตจากแรงหนุนเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย

6. ตลาดหุ้นที่จะเติบโตที่สุดในปีหน้า จากการคาดการณ์ EPS Growth ได้แก่ KOSPI (หุ้นเกาหลีใต้), Russell 2000 (หุ้นสหรัฐ ขนาดกลาง-ขนาดเล็ก) และ VN30 (หุ้นเวียดนาม)

678

7. ตลาดหุ้นที่ Valuation ยังอยู่ในโซนถูก ได้แก่ ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นเวียดนาม ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐ ขนาดใหญ่ (S&P 500, Nasdaq 100) ถือว่าแพงขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง

8. มุมมองดัชนีตลาดหุ้น คาดว่า SET Index ปี 2567 หากเป็น Bull Case อยู่ที่ 1,530 จุด Bas Case อยู่ที่ 1,460 จุด และ Bear Case อยู่ที่ 1,300 จุด โดยเชื่อว่า Digital Wallet จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศระยะสั้น การส่งออกจะกลับมาโต ตลาดหุ้นที่ย่อลงมา ในเชิง Valuation ถือว่าน่าสนใจ

9. สินทรัพย์แนะนำในปี 2567 ได้แก่ Overweight หุ้นเวียดนาม ตราสารหนี้โลก ตราสารหนี้ไทย และ Slightly Overweight หุ้นสหรัฐ  หุ้นยุโรป หุ้นจีน หุ้นไทย

10. สินทรัพย์ที่ปรับคำแนะนำลดลงเป็น Slightly Underweight ได้แก่ หุ้นญี่ปุ่น ทองคำ และน้ำมัน

ขอบคุณข้อมูลจาก FINNOMENA FUNDS > https://www.finnomena.com/finnomena-ic/port-strategy-download/

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน