ถ้านโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” 10,000 บาท เกิดขึ้นจริง และช่วยกระตุ้นเม็ดเงิน หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ หุ้นอะไรบ้างที่จะได้รับอานิสงส์
หลังการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย โดยมีนายกรัฐมนตรี คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในเวลานี้คงหนีไม่พ้น กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) จำนวนเงิน 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายชูโรงในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา
นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีเป้าหมายสำคัญในการกระจายรายได้สู่ชุมชนและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่มีบัตรประชาชนเลข 13 หลัก สำหรับจับจ่ายใช้สอยผ่านร้านค้าที่รับชำระดิจิทัล โดยไม่สามารถแลกหรือเบิกถอนเป็นเงินสดได้
โดยจะสามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลนี้เพื่อซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค หรือเครื่องมือทำกิน กับร้านค้าภายในรัศมีไม่เกิน 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เพื่อต้องการกระจายการจับจ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และท้องถิ่นทั่วประเทศ แต่ก็คาดว่าการใช้จ่ายในรัศมีที่กำหนดจะมีการปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกคน
ดิจิทัล วอลเล็ต เกิดขึ้นจริง หุ้นอะไรได้รับประโยชน์
คำถามคือหากนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นจริง หุ้นกลุ่มไหนจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากนโยบายนี้ ซึ่งการวิเคราะห์จากเงื่อนไขเบื้องต้นที่เปิดเผยออกมา บล. เอเซีย พลัส ประเมินว่ามีหุ้นที่จะได้รับประโยชน์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
1. หุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วยหุ้น ADVANC, TRUE, COM7, SPVI, CPW, IT, SYNEX และ SIS
2. หุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งหมด สามารถจัดกลุ่มได้ดังนี้
- บริษัทที่เข้าไปลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีโดยตรง เช่น หุ้น BROOK
- บริษัทที่เข้าไปลงทุนขุดบิทคอยน์ เช่น หุ้น JTS
- บริษัทที่รับคริปโตเคอร์เรนซี หรือโทเคนเพื่อใช้ซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น หุ้น RS, ANAN, SIRI, SC, ORI, ASW, MAJOR, JMART
- บริษัทที่ทำ ICO portal หรือผู้ให้บริการ Token ซึ่งทำหน้าที่คล้ายที่ปรึกษาทางการเงินในการตรวจสอบข้อมูลการออก ICO ของบริษัทที่เสนอขายโทเคนและเก็บรักษาทรัพย์สินของผู้ลงทุน อาทิ KBANK, SCB, XPG, JTS
- บริษัทที่ทำระบบ Exchange ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี อาทิ หุ้น GULF
แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ประเมินว่าหุ้นส่วนใหญ่ข้างต้นจะได้กระแสเชิงบวกจาก Sentiment ทำให้เกิดการเก็งกำไรในระยะสั้นเท่านั้น เพราะนโยบายจริงยังไม่ได้ประกาศออกมาชัดเจน
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เชื่อว่านโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง หลังได้ตัวนายกฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นหุ้นที่อยู่ในกระแสเก็งกำไร จากประเด็นดังกล่าว และเป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ ชื่นชอบมีด้วยกัน 8 ตัว ได้แก่
- COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)
- TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- SIRI หรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- SC หรือ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- JMART หรือ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
- KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- SCB หรือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
- GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
สุดท้ายนี้ สำหรับการเก็งกำไรในหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกินรอบใหม่ นอกจากแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทแล้ว นักลงทุนยังต้องติดตามนโยบายอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง ราคาน้ำมัน ค่าไฟ ค่าแรงขั้นต่ำ และเงินเดือนเริ่มต้นปริญญาตรี ซึ่งจะมีทั้งหุ้นที่ได้รับผลเชิงบวก และผลกระทบเชิงลบแตกต่างกันไปแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทำความรู้จัก ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ซื้ออะไรได้บ้าง ถอนเป็นเงินสดได้มั้ย เช็กที่นี่
- รวมไว้แล้วที่นี่! แอปหลอกกดรับ ‘เงินดิจิทัล 10,000 บาท’ ตำรวจเตือน! อย่าดาวน์โหลด กดลิงก์เด็ดขาด
- เคลียร์ชัด! เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้เงินวันไหน ต้องลงทะเบียนมั้ย ใครได้บ้าง?