Stock - Finance

‘KBANK’ เข้าลงทุน ‘JMT’ สร้างโอกาสเติบโตร่วมกันระยะยาว!!

เป็นอีกหนึ่งดีลใหญ่ของต้นปีที่สร้างความตื่นเต้น ระหว่าง KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มธุรกิจของ JMT หรือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ล่าสุดทั้งสองกลุ่มบริษัทได้ทำพิธีลงนามซื้อขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้

เป็นการเข้าลงทุนโดย บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KInvesture) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ KBANK เพื่อซื้อหุ้นสามัญ ในสัดส่วนประมาณ 9.9% ของ “บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM)” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMT คิดเป็นเงินลงทุนครั้งนี้กว่า 3,500 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้บอร์ดบริหารของ JMT ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน 2 แห่ง กับบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินของ KBANK โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินธุรกิจด้านการบริการจัดเก็บหนี้ และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และปัจจุบันก็ได้มีการจัดตั้ง บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้น

KBANK เข้าลงทุน JMT

บริษัทร่วมทุน JK AMC จะดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพซื้อหนี้เสียทั้งที่มีหลักประกัน (Secure) และไม่มีหลักประกัน (Unsecure) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้ลุ่มบริษัท JMT ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายในปี 2568 จากโอกาสในการใช้เงินทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นๆ มาบริหาร

พร้อมทั้งยังมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบการเงินอีกครั้ง ผ่านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ลูกหนี้สามารถชำระคืนหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการนำเสนอเงื่อนไขการชำระหนี้ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกลูกหนี้ในการเลือกผ่อนชำระตามความสามารถของตนเอง และอำนวยความสะดวกในการชำระเงินผ่านแอปโดยคาดหวังว่าช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศได้

S 117620744

คำถามก็คือการร่วมทุนนี้ จะส่งผลดีต่อหุ้น KBANK และ JMT อย่างไรบ้าง? ประเด็นแรกเรามองว่าจุดมุ่งหมายหลักของบริษัทร่วมทุนจะมุ่งเน้นไปยังพอร์ตสินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกันที่เป็น NPL จาก KBANK โดยมีการประเมินเบื้องต้นว่า KBANK จะขาย NPL ให้กับ JK AMC ประมาณปีละ 30,000 – 40,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นคาดว่าพอร์ต NPL ของ JK AMC จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 ล้านบาทในปี 2565

เมื่อประเมินดูแล้วจะพบว่าถือเป็นดีลที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย หรือเรียกว่าสรา้งการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive Growth โดยที่ KBANK ได้เข้าถือหุ้นในราคาที่ดี ซึ่งมีนักเคราะห์ประเมินว่าธุรกรรมครั้งนี้น่าจะเท่ากับ P/E เพียง 23 เท่า ต่ำกว่ามูลค่าปัจจุบันของ JMT ที่ P/E อยู่ที่ 42.73

shutterstock 530107876

ขณะเดียวกันสิ่งที่ JMT จะได้รับก็คือแลกมากับการที่ KBANK ยอมขาย NPL จำนวนมากให้นั่นเอง  จะเป็นผลดีต่อแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในระยะยาว รวมไปถึงน่าจะช่วยสนับสนุนให้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากภายในเวลาอันรวดเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน