TikTok เตรียมทุ่มงบ 12.2 ล้านดอลลาร์ สนับสนุน SMB ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์ เข้าร่วมเศรษฐกิจดิจิทัล
TikTok ประกาศการลงทุนครั้งใหม่กว่า 12.2 ล้านดอลลาร์ ตั้งเป้าช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) กว่า 1.2 แสนราย ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะใช้เป็นนทุนช่วยเหลือ การฝึกอบรมเสริมทักษะเชิงดิจิทัลและเครดิตโฆษณาสำหรับ SMB รวมถึงธุรกิจรายย่อย (Micro) ในพื้นที่ชนบทและชานเมือง
การลงทุนนี้ เกิดขึ้นเนื่องจาก TikTok ได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างประโยชน์มากมายให้กับธุรกิจต่าง ๆ และผู้สร้างคอนเทนต์
นอกจากนี้ รายงาน The TikTok Effect: Accelerating Southeast Asia’s Business, Education, and Community Report เผยให้เห็นข้อมูลจากผลสำรวจที่น่าสนใจ ดังนี้
กลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย สามารถเพิ่มรายได้เกือบ 50% จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการบน TikTok และเกือบ 4 ใน 5 ของธุรกิจที่ตอบแบบสำรวจ (79%) ได้เปลี่ยนจากช่องทางการขายแบบออฟไลน์ไปเป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม TikTok
นอกจากนี้ แบบสำรวจยังพบว่ากว่า 80% ของผู้สร้างคอนเทนต์บน TikTok สามารถเพิ่มรายได้มากขึ้นผ่านเครื่องมือบนแพลตฟอร์ม เช่น TikTok LIVE และ การสนับสนุนจากแบรนด์ (Brand Sponsorships)
Shou Chew ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TikTok กล่าวว่า ผู้คนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 325 ล้านคนเข้าใช้ TikTok ทุกเดือน รวมถึงมีการใช้งานจากภาคธุรกิจกว่า 15 ล้านรายในทุกเดือน
บทบาทของเราในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ การศึกษา และการสร้างคอมมูนิตี้ในภูมิภาคนี้และทั่วโลกนั้นยิ่งใหญ่มาก เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นผลกระทบในเชิงบวกของ TikTok และมุ่งมั่นที่จะสานต่องานของเราในการช่วยเหลือผู้คน ชุมชนและธุรกิจต่างๆ ให้เติบโตและประสบความสำเร็จ
คำมั่นสัญญาของ TikTok ที่มีต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สนับสนุนท้องถิ่น: ปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจ
ในช่วงระยะสามปีนี้โครงการสนับสนุนท้องถิ่น (Support Local Programme) มีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม โดยเฉพาะธุรกิจในพื้นที่ชนบทซึ่งอาจยังไม่มีประสบการณ์ในการทำการตลาดออนไลน์มากนัก
TikTok ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กร ไม่แสวงหาผลกำไรกว่า 25 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลรายใหม่ๆ ผ่านการมอบเงินทุนช่วยเหลือ การฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัล และเครดิตโฆษณา
นอกจากนี้ ในประเทศอินโดนีเซีย TikTok จะร่วมมือกับ Asosiasi Pusat Pengembangan Sumberdaya Wanita (PPSW), Platform Usaha Sosial (PLUS) และ Telkom เพื่อเปิดตัว TikTok Jalin Nusantara โครงการริเริ่มนี้จะติดตั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในศูนย์กลางชุมชนในหมู่บ้านชนบท 9 แห่งในจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออกและสุมาตราเหนือ
นอกจากการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในท้องถิ่นแล้ว TikTok Jalin Nusantara จะเสนอโปรแกรมการฝึกอบรมในหมู่บ้านเหล่านี้ รวมถึงศูนย์สร้างสรรค์ 5 แห่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์หลัก ๆ และ Telkom IndigoHubs 5 แห่ง
โปรแกรมดังกล่าว จะให้การฝึกอบรมความรู้ด้านดิจิทัลและการเงินแก่ชุมชน และบทเรียนทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็น เช่น การสร้างเนื้อหา อีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับการฝึกอบรมมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลได้
ขยายการเข้าถึงการศึกษาและการพัฒนาตนเอง
จากรายงานพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 9 ใน 10 (90%) ที่ใช้ TikTok เพื่อการเรียนรู้ ระบุว่าพวกเขาได้รับทักษะใหม่ๆ ที่อาจหาไม่ได้จากที่อื่น จากแพลตฟอร์มนี้ และ 3 ใน 5 (61%) ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่า TikTok ทำให้การเรียนรู้ออนไลน์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ดังกล่าวเพิ่มเติม บริษัทจะร่วมมือกับวิสาหกิจ เพื่อสังคม ได้แก่ บริษัท คิดคิด จำกัด (Kid Kid), กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างจิตสำนึกและการลงมือทำเพื่อสิ่งแวดล้อมในหมู่เยาวชนในประเทศไทย ได้แก่
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติเพื่อส่งเสริมความรู้และความท้าทายเกี่ยวกับทางเลือกในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนในชีวิตประจำวัน เช่น การแยกขยะและการใช้พลังงาน โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้มากขึ้น และเพื่อให้บรรลุความสำเร็จ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573
สร้างชุมชนเพื่อการสนับสนุนและพัฒนา
TikTok ร่วมมือกับมูลนิธิอาเซียน ในโครงการพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งจะส่งเสริมการเสริมสร้างศักยภาพ การให้คำปรึกษา (Mentorship) การอำนวยความสะดวกในตลาด และการระดมทุนสร้างเมล็ดพันธุ์ (Seed funding) มูลค่าสูงถึง 3.2 แสนดอลลาร์ให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่นำโดยเยาวชน 20 แห่งในภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ องค์การสหประชาชาติ ในภูมิภาคอาเซียน
เพิ่มความสามารถในท้องถิ่นให้มากยิ่งขึ้น
TikTok มีพนักงานมากกว่า 8,000 คน ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมุ่งมั่นที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในท้องถิ่นอีกด้วย
แนวคิดริเริ่มต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาบัณฑิตร้านค้า (TikTok Shop Graduate Development Programme) ระดับภูมิภาค ซึ่งมุ่งพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถสำหรับโครงการพัฒนาบัณฑิตร้านค้าและหลักสูตรติวเข้มทางเทคนิค (TikTok Tech Immersion) สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษาของสิงคโปร์
โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีรุ่นเยาว์ได้เติบโตและพัฒนายิ่งขึ้น
Teresa Tan, Head of Public Policy ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ TikTok กล่าวว่า ในเวลาเพียงหกปี TikTok ได้สร้างช่องทางใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้สำหรับทั้งผู้สร้างคอนเทนต์ และธุรกิจต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวช่องทางอีคอมเมิร์ซ เช่น TikTok Shop ซึ่งช่วยให้ SMB เชื่อมต่อกับผู้บริโภครายใหม่และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของตนเองได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทำความรู้จัก-ป้องกัน ‘ScamTok’ ภัยแฝงบน ‘TikTok’
- ‘TikTok’ เผยเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคช่วงหน้าร้อน แนะนักการตลาดจับเทรนด์ให้ทัน
- พาณิชย์ฯ เปิด ‘คลังข้อมูลธุรกิจออนไลน์’ ใหญ่สุดในประเทศ ค้นข้อมูลฟรี ตัวช่วยประกอบธุรกิจ