Startup

‘JUZMATCH’ สตาร์ทอัพเครือแสนสิริ ลุยแพลตฟอร์มลงทุน-เช่าซื้อ ตอบโจทย์ธุรกิจอสังหาฯ 4.0

JUZMATCH สตาร์ทอัพในเครือแสนสิริ ชูโมเดลธุรกิจตอบโจทย์อสังหาฯ 4.0 โตเกิน 100% 2 ปีซ้อน ตั้งเป้าปีนี้โต 66 % จับคู่อสังหาฯเพิ่ม 600 หลัง พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนและเช่าซื้อเพิ่ม

นายรัตนพล มนต์มหาจินดา CEO & Co-Founder JUZMATCH เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัว JUZMATCH แพลตฟอร์มการเช่าซื้อและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อมุ่งแก้อุปสรรค (Pain Point) ของวงการอสังหาฯ เสนอทางเลือกที่ดีขึ้นให้กับคนสามกลุ่ม ได้แก่

แสนสิริ

1. กลุ่มผู้ซื้อ ผู้ที่อยากมีบ้าน แต่ยังไม่พร้อมกู้ธนาคาร เปิดโอกาสให้เช่าซื้อที่อยู่อาศัยและปรับปรุงเครดิตจนสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้

2. กลุ่มนักลงทุน ผู้ที่สนใจลงทุนอสังหาฯ แต่ไม่มีประสบการณ์หรือกลัวการแบกรับความเสี่ยง เหมาะกับผู้ที่สนใจการลงทุนด้านอสังหาฯ แต่ขาดประสบการณ์

3. กลุ่มผู้ขาย เจ้าของทรัพย์หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการขายที่อยู่อาศัย ช่วยให้เข้าถึงตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ บนระบบป้องกันความเสี่ยง พร้อมทีมงานมืออาชีพที่จะคอยให้คำแนะนำและดูแลช่วยเหลือตลอดอายุสัญญา

ภาพประกอบข่าว1

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา JUZMATCH สามารถส่งมอบบ้านและที่อยู่อาศัยไปแล้วกว่า 700 หลัง สร้างมูลค่าทรัพย์สินในโมเดลเช่าซื้อแตะ 3,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปี หลังจากเริ่มเปิดให้บริการ แม้จะตกอยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ก็ยังสามารถเติบโตเฉลี่ยปีละมากกว่า 100%

สำหรับในปี 2566 นับเป็นปีที่ธุรกิจอสังหาฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากกำลังซื้อของคนในประเทศเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และการกลับเข้ามาของชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงแนวโน้มการเช่าซื้อที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

แนวโน้มเช่าซื้อที่อยู่อาศัยที่เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้มีข้อจำกัดในการซื้อบ้านมีจำนวนสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ ค้าขายออนไลน์ ที่พบว่ามีการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงกว่า 1 แสนล้านบาท ในแต่ละไตรมาส สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ายังมีคนประสบปัญหาเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย

นายรัตนพล มนต์มหาจินดา Chief Executive Officer CEO1
รัตนพล มนต์มหาจินดา

ประกอบกับดัชนีการเติบโตของราคาอสังหาริมทัพย์เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ ต้องใช้เงินสดมากขึ้นทุกปีเพื่อซื้อบ้าน

ทั้ง 2 ปัจจัยล้วนเป็นโอกาสให้ JUZMATCH เข้าไปเติมเต็มความต้องการของตลาดและปลดล็อกการครอบครองที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น

นายณัฏฐ์ บุญญาภิบาล COO & Co-Founder JUZMATCH กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ แพลตฟอร์ม JUZMATCH จำนวน 1,500 ราย แบ่งเป็น กลุ่มซื้ออสังหาฯ 800 ราย กลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ 300 ราย และผู้ขายอสังหาฯ 400 ราย

ภาพประกอบข่าว2

ขณะที่ในปีนี้ ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มเป็น 2,500 ราย เพื่อกระจายไปยังกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมกับการจับคู่ผู้เช่าซื้อและนักลงทุนแล้ว 18 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นอสังหาฯใหม่ 87% และอีก 13% เป็นอสังหาฯมือสอง โดยจากทรัพย์ทั้งหมด มีสัดส่วน 75% เป็นอสังหาฯ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย

นอกจากนี้ จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ให้ตอบโจทย์นักลงทุนมากขึ้น อาทิ การลงทุนด้วยเงินสด โดยสามารถลงทุนและร่วมเป็นเจ้าของบางส่วนในสินทรัพย์นั้น หรือ Cash-Based Fractional Ownership ผ่านระบบ Smart Contract บนเทคโนโลยี Blockchain เพื่อความปลอดภัยและการทำธุรกรรมที่ง่ายขึ้นของนักลงทุน

นายณัฏฐ์ บุญญาภิบาล Chief Operation Officer COO2
ณัฏฐ์ บุญญาภิบาล

สำหรับจุดเด่นของแพลตฟอร์ม JUZMATCH คือการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด สำหรับกลุ่มผู้ซื้อ ที่มีกำลังซื้อสูงและมีกำลังผ่อน แต่ติดข้อจำกัดในการกู้ธนาคาร รวมถึงกลุ่มผู้ที่อายุยังน้อยแต่มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้สูงในอนาคต เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ยังตอบโจทย์กลุ่มผู้ขาย เจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการ ที่ต้องการขายบ้าน แต่ประสบปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่านทั้งที่มีกำลังซื้อ แต่ไม่มีรายได้อยู่ในระบบ แพลตฟอร์มจะช่วยเติมเต็มช่องว่างให้โครงการสามารถขายบ้านกับลูกค้าที่มีกำลังซื้อได้มากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo