ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ยืนยันยังต้องทำงานหนักต่อไป หลังได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นมือหนึ่ง ในเกมประเดิมชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่ชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ช้างศึก ไม่มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ในทีมชุดนี้ ทำให้หลายคนจับจ้องไปที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และ ฉัตรชัย บุตรพรม กระทั่งทีมงานสตาฟฟ์โค้ชมอบให้โอกาสให้กับ นายด่านจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เฝ้าเสาก่อน โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า
“ทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีครับ เป็น 3 แต้มแรกที่สำคัญ เพราะหลังจากนี้ เราต้องเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้น”
“ส่วนตัวดีใจที่โค้ชให้โอกาส (ตำแหน่งมือหนึ่ง) ที่ผ่านมา ผมพยายามทำงานหนักอยู่ตลอด แต่จริงๆ แล้วอย่างที่เคยบอกไป ทุกคน ที่อยู่ที่นี่ มีศักยภาพ ที่จะเป็นมือหนึ่งให้ทีมได้หมด อยู่ที่โค้ชว่าจะเลือกใช้งานใคร ซึ่งส่วนตัวผม ในเมื่อโอกาสเข้ามาแล้ว ผมจะพยายามทำงานหนักต่อไปเพื่อรักษามันไว้ และมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
“เรื่องการสื่อสารกับแนวรับไม่มีปัญหาอะไร เราทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ฝึกซ้อมด้วยกันอยู่ตลอด ที่สำคัญการที่เราเก็บคลีนชีตได้ตั้งแต่นัดแรก มันไม่ใช่แค่ทำให้ตัวผมมั่นใจมากขึ้น แต่ยังรวมถึงทุกคนในแนวรับด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ”
“หลังจากนี้หวังว่าจะได้รับโอกาสจากโค้ชต่อไปครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็ไม่ได้สำคัญเลย เพราะผมรู้สึกว่า แค่ผมมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติ เป็นสิ่งที่ผมดีใจและภูมิใจที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้น ผมอยากย้ำคำเดิมว่า ผมมาที่นี่ ไม่ได้แข่งกับใคร แต่เพื่อสนับสนุนทีมให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตาม” ศิวรักษ์ ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมอุ่นเครื่องแบบปิด ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชม พบกับ ม. เกษมบัณฑิต ทีมจากศึกออมสิน ลีก โปร (ไทยลีก 3) วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามวินด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ เวลา 18.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7 HD บัตรมีจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ bit.ly/AFFTHA
