หลังมีการจับสลากฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018/19 รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคมนี้ โดยสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้เพิ่มเงินรางวัลให้กับทุกทีมที่ลงแข่งขัน โดยแต่ละทีมที่เล่นในรอบแบ่งกลุ่มจะได้รับประกันว่า ได้อย่างน้อยแล้ว 13.34 ล้านปอนด์ (ประมาณ 600.3 ล้านบาท)
นอกจากนั้น ในรอบแบ่งกลุ่มแต่ละทีมยังมีโอกาสจะรับทรัพย์เพิ่มอีก โดยชนะได้ 2.36 ล้านปอนด์ (ประมาณ 106.2 ล้านบาท) ต่อเกม และถ้าเสมอได้ 787,000 ปอนด์ (ประมาณ 35.41 ล้านบาท) ต่อเกม
หากผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายจะได้อีก 8.31 ล้านปอนด์ (ประมาณ 373.95 ล้านบาท) ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ 9.19 ล้านปอนด์ (ประมาณ 413.55 ล้านบาท) และหากเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ได้ 10.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 472.5 ล้านบาท)
ส่วนทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ จะได้เพิ่ม 13.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 594 ล้านบาท) และแชมป์รับโบนัสอีก 3.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 157.5 ล้านบาท)
ขณะที่หลังผลการจับออกมา สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจว่าเมื่อนับเฉพาะในรอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก ทีมจากกลุ่ม จี ไม่เคยได้แชมป์ไปครองในบั้นปลายแม้แต่ทีมเดียวเป็นเวลาถึง 15 ปีด้วยกัน
สำหรับในฤดูกาลนี้ทีมที่อยู่ในกลุ่ม จี ประกอบไปด้วย เรอัล มาดริด, โรม่า, ซีเอสเอเค มอสโก และ วิคตอเรีย พิลเซ่น โดยทีมสุดท้ายที่มาจากกลุ่ม จี และได้ถ้วย “บิ๊กเอียร์” ไปเชยชมคือ เอซี มิลาน ในซีซั่น 2002-03 ซึ่งฤดูกาลนั้นพวกเขาเอาชนะ ยูเวนตุส ในช่วงดวลจุดโทษ หลังจบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0
ในทางกลับกัน ถ้านับตั้งแต่ฤดูกาล 2002-03 เป็นต้นมา ทีมจากกลุ่ม เอฟ มักจะได้แชมป์ไปเชยชมสูงที่สุด โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งในซีซั่นนี้ทีมที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, โอลิมปิก ลียง, ฮอฟเฟ่นไฮม์ และ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค
ทั้งนี้ แชมเปี้ยนส์ ลีก เคยใช้ระบบที่แข่งรอบแบ่งกลุ่มกันสองรอบ ก่อนที่ในฤดูกาล 2003-04 จะมีการเปลี่ยนรอบแบ่งกลุ่ม รอบสอง ให้เป็นรอบ 16 ทีมสุดท้ายแทน และมันก็ใช้รูปแบบดังกล่าวมาจนถึงทุกวันนี้
