เปิดชื่อประเทศ และดินแดน 33 แห่งทั่วโลก ที่ไฟเขียว “สมรสเท่าเทียม” คู่รักเพศเดียวกันสมรสกันได้ หลังกลุ่มหลากหลายทางเพศ ในไทย ต้องเจอกับความผิดหวังอีกครั้ง จากการที่ สภาผู้แทนราษฎรลงมติเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 ก.พ.) อนุมัติให้รัฐบาลยื้อการพิจารณาร่างแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่จะเปิดทางให้เกิด “สมรสเท่าเทียม” ออกไปอีก 60 วัน
การตัดสินใจของ สภาผู้แทนราษฎร ที่จะให้การพิจารณาแก่ไขร่างกฎหมาย ปูทางสำหรับ “สมรสเท่าเทียม” นั้น ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์กันอย่างหนักบนโลกออนไลน์ แฮชแท็ก #สมรสเท่าเทียม ติดเทรนด์อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความรู้สึกเสียใจ และไม่พอใจ ที่ไทยยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิทธิ และความเท่าเทียมต่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ ทั้งที่หลายประเทศทั่วโลก เปิดทางให้คนกลุ่มนี้สามารถแต่งงาน จดทะเบียนสมรส ใช้ชีวิตคู่ได้เหมือนกับคู่รักหญิงชายทั่วไปแล้ว
33 ประเทศ และดินแดนทั่วโลก ที่เปิดทางให้คู่รักกลุ่มหลากหลายทางเพศ “สมรสเท่าเทียม”
เนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศแรกของโลก ที่เห็นชอบให้เกิดการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2544 และอีก 2 ปีต่อมา “เบลเยียม” ก็เดินตามรอย ผ่านกฎหมายให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ ตั้งแต่ปี 2546
มีหลายประเทศในยุโรปที่อนุมัติให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ ไม่ว่าจะเป็นนอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ สเปน โปรตุเกส ลักเซมเบิร์ก สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์
ปี 2562 ไต้หวัน ถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ นอกจากนี้ยังมี ออสเตรีย อีกประเทศที่เห็นชอบในปีเดียวกัน
ขณะที่ เมื่อปลายปี 2564 สภาผู้แทนราษฎรชิลีมีมติ เห็นชอบร่างกฎหมายรับรองการสมรสของคนเพศกำเนิดเดียวกัน หลังจากก่อนหน้านี้ ชิลีก็มีกฎหมายคู่ชีวิตสำหรับคู่รักเพศกำเนิดเดียวกันอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2558
แต่คู่ชีวิตก็ยังได้รับสิทธิต่างๆ น้อยกว่าคู่สมรส แต่กฎหมายใหม่นี้จะทำให้คู่รักเพศกำเนิดเดียวกันมีสิทธิเท่าเทียมกับคู่รักชายหญิง อย่างเช่น สิทธิในการรับบุตรบุญธรรม
ล่าสุด คู่รักเพศเดียวกันในสวิตเซอร์แลนด์สามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมาย ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ หลังผลประชามติมีผู้สนับสนุนการการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันถึง 2 ใน 3 พร้อมอนุญาตให้ผู้จดทะเบียนคู่ชีวิต สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นคู่สมรส และยกเลิกการจดทะเบียนคู่ชีวิตทันทีที่กฎหมายบังคับใช้
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ประกาศเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนปีที่แล้วว่า จะเริ่มอนุญาตให้คนรักเพศเดียวกันแต่งงานกันได้อย่างถูกกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป หลังจากที่มีการทำประชามติในเรื่องนี้เมื่อเดือน กันยายน 2564
กลุ่มผู้ที่เรียกร้องสนับสนุนการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันคาดว่า จะมีหลายร้อยคนมาใช้สิทธิจดทะเบียนสมรสในปีแรกที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้
มาเรีย ฟอน แคเนล ประธานร่วมของกลุ่มแมริเอจฟอร์ออล (Marriage for All) กล่าวว่า พวกเขารู้สึกดีกับผลการลงประชามติและกับการที่ผลประชามติในครั้งนั้นกลายเป็นกฎหมาย แคเนลบอกว่าพวกเขาต่อสู้กับประเด็นสมรสเท่าเทียมมากว่า 30 ปีแล้ว และผลการลงประชามติที่ออกมาก็รับเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์”
ส่วนสถานการณ์ในไทยนั้น สมรสเท่าเทียม เคยเป็นกระแสมาแล้วในช่วงที่มีการกล่าวถึง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ทำให้กลุ่มที่มีความรักแบบชาย-ชาย ,หญิง-หญิง รวมถึงประชาชนทั่วไปบางคน เรียกร้องให้มี พ.ร.บ.คู่ชีวิต เกิดขึ้น โดยหยิบยกสิทธิและความเท่าเทียมของมนุษย์ขึ้นมา
แต่เรื่องราวของ สมรสเท่าเทียมในไทย ก็ยังต้องร้องเพลงรอกันต่อไป เนื่องจากล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎร มีมติให้เลื่อนการแก้ไข ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศ ออกไปอีก 60 วัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แขวนกม.สมรสเท่าเทียม 60 วัน – ส.ส. ก้าวไกล หลั่งน้ำตากลางสภา!
- เปรียบเทียบ ‘คู่ชีวิต-สมรสเท่าเทียม’ คล้าย แต่ไม่เท่ากัน
- ทำความรู้จัก ‘สมรสเท่าเทียม’ หนุนสิทธิคู่รักหลากหลายทางเพศ