สมรสเท่าเทียม “ส.ส. ก้าวไกล” หลั่งน้ำตากลางสภาฯ! หนุนดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม สร้างรักไร้เงื่อนไข ลั่นหากไม่แก้แปลว่า รัฐไทยไม่ให้ค่าความรักของกลุ่มหลากหลายทางเพศ “ชวน” ปลอบให้กำลังใจอย่าร้อง ก่อนโดนแขวน ที่ประชุมสภามีมติส่ง ครม.ดูร่าง กม.สมรสเท่าเทียม 60 วัน
ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระ ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศ โดยมี นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล เป็นผู้เสนอ โดยนายธัญวัจน์ อภิปรายตนหนึ่งว่า ในปี 2565 มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เราอาจจะนึกไม่ออกว่าบุคคล ที่มีความหลากหลายทางเพศมีปัญหาอะไรบ้างในขณะที่พวกเขาจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้ และคิดว่าพวกเรา LGBT มีสิทธิเท่าเทียมแล้วเราจะไม่นึกถึงกฎหมายเมื่อวิกฤตชีวิตยังไม่มาถึง
สมรสเท่าเทียม ส.ส.ก้าวไกล ร่ำให้กลางสภา
ระหว่างที่นายธัญวัจน์ กำลังอภิปรายอยู่ได้สะอื้นไห้พร้อมเช็ดน้ำตา ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาสภาผู้แทนราษฎร กล่าวขึ้นว่า “ให้กำลังใจ อย่าร้องไห้นะครับ”
สมรสเท่าเทียม โดนแขวน ส่งครม.พิจารณาอีก 60 วัน
จากนั้น นายธัญวัจน์ อภิปรายต่อว่า บางช่วงเวลาเป็น เวลาชี้เป็นชี้ตาย ถ้าเราไม่แก้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้แปลว่า รัฐไทย ไม่ได้ให้คุณค่าความรักของกลุ่มผู้มีความรักหลายทางเพศ จากข้อมูล LGBT ในประเทศเรามีจำนวน 4,000,000 คน เป็นการคาดคะเนที่เราอาจมีถึง 7,000,000 คน ในประเทศไทย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ประชาชนรอคอยเป็นจำนวนมากที่ถูกพรากสิทธิขั้นพื้นฐานไป
“วันนี้ถึงเวลาที่การเมืองต้องก้าวหน้าก้าวไกล เรายังมีกฎหมายในระบบสองเพศที่ไม่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตในประเด็นความหลากหลายทางเพศ ในเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ เรื่องรสนิยมทางเพศ ที่ยังถูกเลือกปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้คือสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทุกคนในโลกใบนี้ที่เราจะดำเนินชีวิตตามที่เราต้องการ การสร้างครอบครัวของชายและหญิงทั่วไปคือการสืบสายโลหิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุตรหรือมรดก แต่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ สร้างครอบครัวด้วยสายสัมพันธ์ และนี่คือรักที่ไม่มีเงื่อนไข ตนคิดว่ากฎหมายฉบับนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของการให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ดังนั้นเราทุกคนส.ส.จะใช้อำนาจที่เรามีอยู่ในมือกดโหวตให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านเข้าสู่วาระที่ 1 ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาต่อไป” นายธัญวัจน์ กล่าว
ด้านนายอนุชา นาคาศัย คณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากครม.ให้รับร่างดังกล่าวไปพิจารณาก่อนที่สภาฯ จะพิจารณารับร่างหลักการวาระที่ 1 โดยครม.จะใช้เวลาพิจารณา 60 วัน
ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นท้วงติง ว่าไม่เห็นด้วยที่กฎหมายหลายฉบับต้องส่งไปให้ครม.พิจารณา เท่ากับล่าช้าไป 3-4 เดือน ไม่มีความคืบหน้าทั้งที่กฎหมายเข้ามาสภาฯมาเป็นปีแล้ว
ต่อมาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติ ส่งร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ พ.ศ. … เพื่อให้คณะรัฐมนตรีนำไปพิจารณาก่อนเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า จะรับหลักการต่อร่างกฎหมายหรือไม่ภายใน 60 วัน ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 227 เสียง ไม่เห็นด้วย 157 เสียง งดออกเสียง 10 เสียง จากนั้นนายชวน ได้สั่งปิดประชุมในเวลา 18.36 น.
อ่านข่าวเพิ่ามเติม
- ‘ถวิล ไพรสณฑ์’ ไปแล้ว ‘สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์’ จ่อออกตาม 11 ก.พ.นี้ ช้ำใจ ‘ประชาธิปัตย์’ ไม่ดูแลอดีต ส.ส.
- โฆษกประชาธิปัตย์’ รับ ตกใจ-เสียใจ ‘ถวิลไพรสณฑ์’ ให้เหตุผลลาออก แต่บอกไม่ได้
- ไม่คิดว่าจะมีวันนี้!! ‘นิพิฏฐ์’ โพสต์อำลาประชาธิปัตย์ บอกพรุ่งนี้ยื่นใบลาออก
