สบส. สั่งปิดคลินิคเสริมความงามของ “พิมรี่พาย” 30 วัน ระบุ เป็นไปตามแนวทางการตรวจพบสถานพยาบาล ที่มีหมอเถื่อนเข้าทำงาน เผย เข้าตรวจสอบยังพบความผิดด้านอื่น เตรียมรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากกรณี นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ “พิมรี่พาย” หุ้นส่วน อิส คิวท์ คลินิก (EST CUTE Clinic) คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง เข้าแจ้งความตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ว่า คลินิกของตนถูกมิจฉาชีพใช้เอกสารใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านอื่น มาสมัครเป็นแพทย์ผู้ให้บริการของคลินิก
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าหลังจากเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ อิส คิวท์ คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง เบื้องต้นได้สั่งปิดสาขาดังกล่าว เป็นเวลา 30 วัน พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้าของสถานพยาบาลตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาลต่อไป โดยสาเหตุที่ปิดเพียงสาขาเดียว เนื่องจากต้องดูจากเหตุที่เกิด ซึ่งยังพบแค่สาขาเดียว
ทางด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า กำลังออกคำสั่ง ปิดสถานพยาบาลชั่วคราว 30 วัน ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง คือหากพบสถานพยาบาล ที่มีแพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ หรือหมอเถื่อน เข้ามาทำงาน ถือว่าไม่ปลอดภัยต่อประชาชน จึงต้องสั่งปิดชั่วคราว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เกิดการปรับปรุงและระมัดระวังมากขึ้น
“ขณะนี้ที่ผิดแน่นอน คือ หมอที่แอบอ้างตัว ซึ่งเจ้าพนักงานสอบสวนกำลังออกหมายจับอยู่”
ส่วนเรื่องทางเจ้าของคลินิก ระบุว่า แพทย์จริงที่ประจำอยู่ในคลินิกเป็นผู้รับสมัครงานจากหมอที่แอบอ้าง กรณีนี้ความผิดจะเกิดขึ้นจากใครบ้าง นพ.ธเรศ กล่าวว่า ตามกฎหมายคลินิก จะประกอบด้วย
1.ผู้รับอนุญาต คล้ายเป็นเจ้าของกิจการ ที่จะเป็นบุคคลทั่วไป หรือบริษัท ก็ได้
2.ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล คือ แพทย์ในคลินิก ที่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ตามแต่ละสาขา คล้ายผู้จัดการทางการแพทย์ มีหน้าที่จัดหาผู้ให้บริการที่ถูกต้อง
แต่ปรากฏว่า มีหมอเถื่อนในคลินิก ดังนั้น เบื้องต้นจึงมีโทษจากการไม่จัดผู้ให้บริการให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีว่าจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
“เบื้องต้นความผิดหลักอยู่ที่ผู้ดำเนินการ ส่วนภาพรวมถือว่า สถานพยาบาลไม่ปลอดภัย พบหมอเถื่อนเข้ามาทำงาน ตามหลักจึงต้องปิดปรับปรุง 30 วัน ส่วนเจ้าของคลินิก ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ยังไม่พบความผิด แต่สิ่งที่เราปิดสถานบริการ นั่นเป็นการลงโทษเจ้าของ ตามโทษทางการปกครองแล้ว”
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบวานนี้ (17 ธ.ค.) ยังพบความผิดในด้านอื่น ๆ เช่น คลินิกมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใช้สอยโดยไม่ได้รับอนุญาต การโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และการไม่แจ้งรายชื่อของแพทย์ผู้ให้บริการ กับผู้อนุญาต ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แสนแตก! ‘พิมรี่พาย’ ได้เบาะแสหมอปลอมแล้ว รีบส่งข้อมูลให้ ตร. ลั่น เตรียมนอนคุก
- ‘พิมรี่พาย’ ร่ำไห้กลางไลฟ์ พลาดจ้างหมอปลอม ยันรับผิดชอบทุกกรณี – เคลียร์ปมสั่งซื้อฟิลเลอร์
- ‘พิมรี่พาย’ งานงอก!! สบส. เต้น ส่งทีมตรวจสอบ ปมร้อน ‘หมอปลอม-ฟิลเลอร์เถื่อน’
