28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษา: “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” มีพระนามเดิมว่า สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรง สุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร
พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2495 เมื่อเวลา 17 นาฬิกา 45 นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อทำนุบำรุงสุขให้แก่ราษฎรของพระองค์ ทรงห่วงใยในสุขภาพ และพลานามัยของพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง
พระราชกรณียกิจตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร”มาจนถึงปัจจุบัน ล้วนแต่มีเป้าหมาย เพื่อช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุขพสกนิกรทั่วทุกภูมิภาค
ในอดีตนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านกีฬาทั้งในฐานะผู้แทนพระองค์ และในส่วนของพระองค์เอง อาทิ การพระราชทานไฟพระฤกษ์กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักกีฬาไทยผู้นำความสำเร็จ นำเกียรติยศ มาสู่ประเทศชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม รับพระราชทานพร และทรงแสดงความชื่นชมยินดีที่นำความสำเร็จ นำเกียรติยศมาสู่ตนเอง สู่วงศ์ตระกูล และประเทศชาติ
เมื่อเดือนธันวาคม 2541 พระองค์ได้ตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปในงานพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทำให้นักกีฬามีขวัญและกำลังใจในการแข่งขัน ประสบชัยชนะนำเหรียญรางวัลมาสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พระองค์ทรงเป็นประธานในกิจกรรม Bike for Mom ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 และในปีเดียวกันนั้น พระองค์ได้ต่อยอดโครงการจาก Bike For Mom สู่โครงการ Bike For Dad “ปั่นเพื่อพ่อ” เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พ.ศ. 2558 อีกด้วย
ทั้ง 2 โครงการนอกจากจะเป็นการเฉลิมพระเกียรติแก่ทั้งสองพระองค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพ-พลานามัยแก่พสกนิกรชาวไทยด้วย โดยพระองค์ได้ทรงจักรยานพระที่นั่งนำประชาชนทั่วประเทศปั่นจักรยานในกิจกรรม Bike For Mom
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงริเริ่ม “โครงการจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ” โดยมีพระราชประสงค์ให้คนไทยร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ ทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดโครงการจิตอาสาฯ ขุดลอกคูคลองกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำความสะอาด และปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณประโยชน์ รอบพระราชวังดุสิต โดยจิตอาสาทุกคนได้รับสิ่งของพระราชทาน 3 อย่าง คือ หมวกแก๊ปสีฟ้า ผ้าพันคอสีเหลือง และสมุดบันทึกความดี
พระราชกรณียกิจเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงมีพระราชปฏิบัติมาอย่างช้านาน นับตั้งแต่ครั้งที่ยังดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกล การคมนาคมไม่สะดวก
ทั้งยังทรงโปรดให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร พระองค์ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยทรงมีพระราชปณิธานให้เอาใจใส่รักษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วหน้าเสมอกัน
ในช่วงเวลาที่ประเทศไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 พระองค์ยังทรงเป็นห่วงใยประชาชน และเฝ้าคอยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงมีพระเมตตา สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ในการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเพื่อช่วยเหลือปบระชาชนที่เดือดร้อนจากเรื่องนี้ ด้วยทรงพระราชทานเครื่องช่วยหายใจ 132 เครื่อง เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว 50 เครื่อง อีกทั้งยังได้พระราชทานหน้ากากอนามัย 2 ล้านชิ้น, หมวก Face Shield จำนวน 30,000 ใบ และชุดป้องกันการติดเชื้อโรค (PPE) จำนวน 4,000 ชุด
นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” เป็นหนึ่งใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” เพื่อรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้โรงพยาบาลต่าง ๆ 20 แห่งทั่วประเทศ และรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย จำนวน 13 คัน เพื่อใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บตัวอย่างโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น โรงเรียน วัด ชุมชนแออัด และกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เชิงรุก
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัส ที่พระราชทานเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไว้ว่า
” ปัญหานี้เป็นปัญหาของชาติ เพราะเรื่องโรคระบาดไม่ใช่ความผิดของใคร เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เรามีหน้าที่ดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด ต้องมีความเข้าใจในปัญหา เข้าใจในสถานการณ์ และมีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็จะเข้าใจปัญหาได้เอง ถ้าเรามีแผนบริหารจัดการ แผนเผชิญเหตุ มีระบบการปฏิบัติที่ดี ก็จะแก้ไขได้ถูกจุด ในเวลาเดียวกันก็ต้องทำให้ประชาชนได้เข้าใจวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องและเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะการทำตามแผนปฏิบัติก็จะช่วยลดปัญหา”
“อย่างที่บอกว่าประชาชนมีความสุข ประเทศมีความมั่นคง แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ปัญหาต้องมี อุปสรรคต้องมีเสมอ แต่ถ้าเรามีความมั่นคงมีความอยากให้ประชาชนมีความสุข มีทัศนคติที่ดี ประชาชนก็มีความสุข พวกเราก็มีความสุข เพราะเราก็คือประชาชน..””
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 13 ก.ค. วันคล้ายวันประสูติ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
- 4 กรกฎาคม วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
- ‘MEA’ ชวนดูไฟประดับ วันเฉลิมพระชนมพรรษา ‘ในหลวง’