วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นอีกวันหนึ่งที่คนไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในวันเพียงวันเดียวนี้ กลับเป็นวันที่มีความสำคัญถึง 3 เรื่องด้วยกัน
แต่เดิมนั้น วันนี้ ตรงกับวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และยังถูกกำหนดให้เป็นวันพ่อของชาติ
ต่อมา ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ ให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ (ประเทศไทย)
เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัย และพระสติปัญญาของพระองค์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจ อันยังประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรของพระองค์มาโดยตลอด
การกำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันสำคัญของชาติไทยดังนี้
1. เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
2. เป็นวันชาติ
3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อันล้นพ้นของในหลวงรัชกาลที่ 9 และตระหนักในความสำคัญของการเป็น “วันชาติ” และ “วันพ่อแห่งชาติ” ไปพร้อม ๆ กัน รัฐบาลไทย จึงกำหนดที่จะจัดงาน วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ และวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงรัชกาลที่ 9 ขึ้นพร้อม ๆ กัน ทั่วประเทศ
น้อมรำลึก “กษัตริย์นักพัฒนา” เพื่อประชาราษฎร์อยู่ดี มีสุข
“ในหลวง ร.9” พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2489 ด้วยพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนสวรรคต เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นับตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย ให้กับประชาชน ภาพที่ชาวไทยมีต่อพระองค์ท่าน ไม่ใช่การฉลองพระองค์เต็มยศ หากแต่เป็นภาพในหลวงทรงสะพายกล้อง ทรงถือแผนที่ มีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกร และเสด็จฯ ไปยังถิ่นทุรกันดารอยู่เสมอ
พระองค์ทรงทุ่มเทอย่างมาก ให้กับการพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนของพระองค์ให้ดียิ่งขึ้น จนได้รับการยกย่องว่า ทรงเป็น “กษัตริย์นักพัฒนา”
พระองค์พระราชทานความรู้ ทรงเพิ่มความสามารถให้กับชาวไทยในชนบทเกี่ยวกับการทำเกษตรกรรม เทคโนโลยีทางการเกษตรที่เหมาะสม การใช้น้ำอย่างยั่งยืน และวิธีการป้องกันน้ำท่วม ทรงนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในชุมชนไทย
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงให้ความสำคัญแก่สุขภาพ การศึกษา และการดำเนินชีวิตของประชาชน หลอมรวมเป็นโครงการในพระราชดำริ และปรัชญาการใช้ชีวิตที่ได้นำไปสู่การพัฒนาให้กับคนไทยมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงได้รับการยกย่องจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ให้เป็นบุคคลที่อุทิศทั้งชีวิตแก่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน
โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น มีอยู่มากมายหลากหลายประเภท แตกต่างกันไปตามลักษณะ และวัตถุประสงค์ของโครงการนั้นๆ ซึ่งส่วนมากจะเป็นการแก้ไขปัญหา และพัฒนาด้านการทำมาหากิน ของประชาชน เป็นสำคัญ
จากพระราชกรณียกิจ ที่ทรงทุ่มเทพระวรกาย เพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอด อันได้นำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรอย่างยั่งยืน ไปจนถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ของชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์หลัก ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme-UNDP)
เป็นผลให้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นบุคคลแรก ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล United Nations Development Programme- UNDP Human Development Lifetime Achievement Award
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย ในหลวง ร.9 เป็น‘สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศฯ’
- นายกฯ พร้อมผู้แทนทางการจีน เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว
- ‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯ ในการพิธีสวนสนาม และถวายสัตย์ปฏิญาณตน ทหารรักษาพระองค์
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X : https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg