Politics

ผู้เชี่ยวชาญเผยแล้ว ฉีดวัคซีน ‘mRNA’ แบบไหน? สู้โอไมครอนสายพันธุ์ย่อยได้ดีที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญเผยแล้ว ฉีดวัคซีน ‘mRNA’ แบบไหน? สู้โอไมครอนสายพันธุ์ย่อยได้ดีที่สุด แม้ประสิทธิภาพจะลดลง เมื่อเจอสายพันธุ์ใหม่

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญเผย วัคซีนลดประสิทธิภาพลงเมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุใหม่ พร้อมเผยผลเปรียบเทียบการฉีด mRNA ในลักษณะต่างๆ ในการต่อสู้กับโอไมครอนสายพันธุ์ย่อน และสายพันธุ์อั้งเดิม ดังนี้

ดร. เดวิด โฮ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ แอรอน ไดมอนด์ (ADARC) ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และทีมวิจัยได้รายงานผลการศึกษาในงานประชุมสัมมนา ADARC โดยพบว่าผู้ที่รับการฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ(mRNA) จำนวน 2 เข็มและเข็มกระตุ้น 1 เข็ม จากนั้นมีการติดเชื้อ BA.4 หรือ BA.5  ตามธรรมชาติพบว่า ร่างกายมีการสร้างแอนติบอดีที่สามารถต่อสู้กับโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BQ.1,BQ.1.1,XBB, และXBB.1 ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อตามธรรมชาติแบบอื่น  กล่าวคือ

วัคซีน

ผลเปรียบเทียบการฉีดวัคซีน mRNA

  1. ผู้รับการฉีด mRNA จำนวน 2 เข็มและเข็มกระตุ้น 1 เข็ม ตรวจพบในน้ำเหลืองมีแอนติบอดีที่สามารถเข้าจับและยับยั้ง
  • โอมิครอน BQ.1 และ BQ.1.1 ได้ต่ำกว่า 37 และ 55 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  • โอมิครอน XBB และ XBB.1 ได้ต่ำกว่า 70 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  1. ผู้รับการฉีด mRNA จำนวน 2 เข็มและเข็มกระตุ้น 2 เข็ม ตรวจพบในน้ำเหลืองมีแอนติบอดีที่สามารถเข้าจับและยับยั้งกับ
  • โอมิครอน BQ.1 และ BQ.1.1 ได้ต่ำกว่า 43 และ 81 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  • โอมิครอน XBB และ XBB.1 ได้ต่ำกว่า 145 และ 155 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  1. ผู้รับการฉีด mRNA จำนวน 3 เข็มและเข็มกระตุ้นด้วยโอไมครอน (BA.4/.5)วัคซีน 1 เข็ม ตรวจพบในน้ำเหลืองมีแอนติบอดีที่สามารถเข้าจับและยับยั้ง
  • โอมิครอน BQ.1 และ BQ.1.1 ได้ต่ำกว่า 24 และ 41 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  • โอมิครอน XBB และ XBB.1 ได้ต่ำกว่า 66 และ 85 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)

วัคซีน

  1. ผู้รับการฉีด mRNA จำนวน 2 เข็ม + เข็มกระตุ้น 1 เข็ม และจากนั้นมีการติดเชื้อ BA.2 ตามธรรมชาติ ตรวจพบในน้ำเหลืองมีแอนติบอดีที่สามารถเข้าจับและยับยั้ง
  • โอมิครอน BQ.1 และ BQ.1.1 ได้ต่ำกว่า 20 และ 29 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  • โอมิครอน XBB และ XBB.1 ได้ต่ำกว่า 103 และ 135 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  1. ผู้รับการฉีด mRNA จำนวน 2 เข็ม + เข็มกระตุ้น 1 เข็ม และจากนั้นติดเชื้อ BA.4 หรือ BA.5 ตรวจพบในน้ำเหลืองมีแอนติบอดีที่สามารถเข้าจับและยับยั้งกับ
  • โอมิครอน BQ.1 และ BQ.1.1 ได้ต่ำกว่า 13 และ 31 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)
  • โอมิครอน XBB และ XBB.1 ได้ต่ำกว่า 86 และ 96 เท่า เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น)

วัคซีนวัคซีนลดประสิทธิภาพลง แต่ลดติดเชื้อรุนแรงได้

ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ได้รับ mRNA และหลังจากนั้นมีการติดเชื้อโอไมครอน BA.2, BA.4 หรือ BA.5 ตามธรรมชาติ พบว่าระดับแอนติบอดีที่สามารถเข้าจับและยับยั้ง BQ.1 และ BQ.1.1 จะลดลงน้อยที่สุด

แต่ผู้ที่ได้รับ mRNA จำนวน 3 เข็มและเข็มกระตุ้นที่ทำจากเชื้อโอมิครอน BA.4/.5  สร้างแอนติบอดีป้องกันการติดเชื้อโอไมครอน XBB และ XBB.1 ได้ดีกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA จำนวน 3 เข็ม

พบว่าผู้ที่รับการฉีด mRNA จำนวน 2 เข็มและเข็มกระตุ้น 1 เข็ม จากนั้นมีการติดเชื้อ BA.4 หรือ BA.5  ตามธรรมชาติจะสร้างแอนติบอดีที่สามารถต่อสู้กับโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BQ.1,BQ.1.1,XBB, และ XBB.1 ได้ดีที่สุด

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่า แม้ว่าวัคซีนอาจลดประสิทธิภาพลงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ใหม่ วัคซีนยังคงปกป้องผู้คนจาก COVID-19 ที่รุนแรง มีหลักฐานเบื้องต้นว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีน อาจผลิตแอนติบอดีในการต่อสู้กับไวรัสในวงกว้างขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

วัคซีน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo