พบอีกราย ‘BA.2.75.2’ เป็นหญิงไทย เผยดื้อต่อ ‘ยารักษาโควิด’ แทบทุกชนิด รวมทั้ง Evusheld ที่ใช้ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่อง พบผู้ติดเชื้อ โอไมครอน BA.2.75.2 ในไทยเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิง ที่มีการอัพโหลดข้อมูลขึ้นฐายข้อมูลโควิด 19 โลก หรือ GISAID ข้อความดังนี้
มูฟออนจากโควิดได้ แต่ต้องตระหนักการ์ดไม่ตก
จากข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “GISAID” พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.2.75.2” รายที่สองในไทยเป็น “หญิง”
โอไมครอน BA.2.75.2 :- ข้อมูลจากทีมวิจัยสหราชอณาจักร พบสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า BA.5 ถึง 5 เท่า และ ดีกว่า BA.4.6 ถึง 4 เท่า ดื้อต่อแอนติบอดีที่ใช้รักษาโรคโควิด-19 แทบทุกชนิด รวมทั้ง “เอวูเชลด์/Evusheld”
ไม่จำเป็นต้อง “ตระหนก” พบเพียง 464 รายในฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” (ในไทยพบสองราย) มูฟออนจากโควิด-19 ได้ แต่ต้องตระหนักการ์ดไม่ตก?
การกระจายทางภูมิศาสตร์
https://cov-spectrum.org/…/AllSamples/Past6M/variants…
- อินเดีย พบ 143 คิดเป็นสัดส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 0.489%
- สหรัฐ 112 0.014%
- สิงคโปร์ 43 0.500%
- ออสเตรเลีย 20 0.032%
- เกาหลีใต้ 20 0.054%
- ออสเตรีย 19 0.027%
- ญี่ปุ่น 18 0.013%
- อิสราเอล 13 0.019%
- ประเทศอังกฤษ 13 0.003%
- แคนาดา 13 0.014%
- เยอรมนี 8 0.003%
- เนเธอร์แลนด์ 7 0.026%
- เดนมาร์ก 6 0.004%
- นิวซีแลนด์ 5 0.042%
- เบลเยียม 4 0.011%
- ไอร์แลนด์ 3 0.012%
- ฝรั่งเศส 3 0.002%
- สเปน 2 0.006%
- สโลวีเนีย 2 0.020%
- ประเทศไทย พบ 2 ราย พบในผู้ติดเชื้อรายใหม่ 0.030%
- สวิตเซอร์แลนด์ 2 0.014%
- สวีเดน 2 0.008%
- ลักเซมเบิร์ก 1 0.006%
- ฮ่องกง 1 0.030%
- ชิลี 1 0.009%
- เนปาล 1 0.304%
พบติดเชื้อในไทยเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิง
จากฐานข้อมูลโควิด-19 โลก “GISAID” พบผู้ติดเชื้อโอไมครอน BA.2.75.2 ในไทยอีก 1 ราย เป็นหญิง (ภาพ 0)
ข้อมูลล่าสุดจากทีมวิจัยในสหภาพยุโรป (European Union: EU) เมื่อ 16/กย/2565 ได้รายงานในวารสารวิชาการแสดงข้อมูลทางห้องปฎิบัติการให้เห็นว่าโอไมครอน BA.2.75.2 และ BA.4.6 (ภาพ 1) สามารถหลบเลี่ยง “ยาแอนติบอดีที่ใช้เดี่ยว” และ “ยาแอนติบอดีแบบผสม” รวมทั้ง “เอวูเชลด์/Evusheld” ซึ่งมีส่วนผสมระหว่างแอนติบอดีซิกเกวิแมบ/cilgavimab และ ทิกเกจวิมาบ/tixagevimab”
ดื้อยารักษาแทบทุกชนิด
ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อโอไมครอน 2 สายพันธุ์ดังกล่าวจะรักษายากขึ้นเนื่องจากดื้อต่อ “ยาแอนติบอดี” เป็นส่วนใหญ่ เหลือแอนติบอดีสังเคราะห์เพียงไม่กี่ประเภท เช่น “เบบเทโลวิแมบ/bebtelovimab” ที่ยังสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของโอไมครอน BA.2.75. 2 และ BA.4.6 ได้ (ภาพ 2)
ข้อมูลจากทีมวิจัยสหราชอณาจักร พบสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ของโอไมครอน BA.2.75. 2 ดีกว่า BA.5 ถึง 5 เท่า และ ดีกว่า BA.4.6 ถึง 4 เท่า (ภาพ 2.1)
https://www.biorxiv.org/content/10.1101/2022.09.16.508299v1
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเกิดความกังวลว่าโอไมครอน BA.2.75. 2 และ BA.4.6 อาจหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันทางร่างกายเกิดการระบาดในกลุ่มประชากรขึ้นได้ โดยเฉพาะประเทศในซีกโลกเหนือที่กำลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งประชาชนจะรวมตัวกันอยู่ในที่พักเพื่อเลี่ยงอากาศหนาว ทำให้โรคติดต่อทางอากาศและการสัมผ้สใกล้ชิด ติดต่อกันได้มากขึ้น
ยาแอนติบอดีแบบผสม“เอวูเชลด์” ทาง EU เพิ่งอนุมัติให้ใช้รักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของ BA.1, BA.2, BA.4/BA.5, และ BA.2.75 ในร่างกายผู้ป่วยได้ดีในระดับหนึ่ง โดยขณะที่อนุมัตินั้นยังไม่มีข้อมูลการ “กลายพันธุ์ของโอไมครอน BA.4 มาเป็น BA.4.6” และ “การกลายพันธุ์ของโอไมครอน BA.2.75 มาเป็น BA.2.75. 2” ซึ่งดื้อต่อยาเอวูเชลด์ (ภาพ 3)
พบสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า BA.5 ถึง 5 เท่า และ ดีกว่า BA.4.6 ถึง 4 เท่า
https://www.biorxiv.org/…/10.1101/2022.07.14.500041v1.full
การใช้ “ยาแอนติบอดีแบบผสม” ในประเทศไทยมีข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาโรค COVID-19 ในผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป โดยมี “อาการน้อยถึงปานกลาง” ไม่ต้องให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูง หรือเป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูงที่โรคจะดำเนินไปสู่อาการรุนแรง จากการวิจัยทางคลินิกพบว่า การรักษาด้วยยาแอนติบอดีแบบผสมสามารถลดปริมาณเชื้อไวรัสในกระแสเลือดและยับยั้งการติดเชื้อของร่างกาย รวมทั้งลดระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาล
Evusheld ยารักษาโควิดสำหรับผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้นำเข้า Evusheld เพื่อใช้สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ปานกลางถึงรุนแรงที่อาจตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนโควิดได้ไม่ดี หรือคนที่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีน เช่น ผู้ป่วยล้างไต ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ และผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องภูมิคุ้มกันของตนเอง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โอไมครอน ‘BA.2.75. 2’ และ ‘BA.4.6’ ศูนย์จีโนมฯ ให้คำตอบ ทำไม? ไทยต้องเฝ้าระวัง
- ทายาทรุ่นต่อไป! คาด ‘BA.2.75. 2’ จะมาแทนที่ BA.5 ผลการวิจัยพบ หนีภูมิเก่ง ‘วัคซีนรุ่น 2’ เอาไม่อยู่
- ไทยพบแล้ว 1 ราย! โอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ ‘BA.2.75 .2’