ดร.อนันต์ เผยผลวิจัย พบ ‘BA.2.75’ เชื้อเพิ่มจำนวนในปอด ได้มากกว่า ‘โอไมครอน’ ทุกสายพันธุ์ สูงกว่า BA.5 ร้อยเท่า และ BA.2 พันเท่า
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุถึงผลการวิจัยองนักวิจัยญี่ป่น ที่พบว่า สายพันธุ์ BA.2. 75 ติดเชื้อและเพิ่มจำนวนเซลล์ในปอด ได้ดีกว่าโอไมครอนทุกสายพันธุ์ ดังนี้
ไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ BA.2.75 มีการเปลี่ยนแปลงบนโปรตีนหนามสไปค์มากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ปกติ เป็นสายพันธุ์หลักในอินเดีย และ มีแนวโน้มเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐอเมริกาในอนาคต ด้วยคุณสมบัติการแพร่กระจายที่อาจจะสูงกว่า BA.4/BA.5 และ คุณสมบัติการหนีภูมิในระดับสูง (แต่ก็ไม่มากไปกว่า BA.4/BA.5) แต่ข้อมูลเรื่องความรุนแรงของไวรัสยังไม่ค่อยชัดเจนนัก
ติดเชื้อและเพิ่มจำนวนเซลล์ในปอด ได้ดีกว่าโอไมครอนทุกสายพันธุ์
ข้อมูลล่าสุดที่ทีมวิจัยในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาเปรียบเทียบคุณสมบัติของ BA.2. 75 ในการเพิ่มจำนวนในอวัยวะต่างๆในสัตว์ทดลอง (หนูแฮมสเตอร์ที่มีการแสดงออกของ ACE2 มนุษย์)เปรียบเทียบกับ เดลต้า และ โอมิครอนสายพันธุ์หลักคือ BA.2 และ BA.5 ทีมวิจัยพบว่า หนูที่ติดเชื้อโอมิครอนทั้ง 3 สายพันธุ์ยังไม่ทำให้หนูน้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหมือนกับหนูที่ติดเดลต้า
แต่ถ้าลงลึกไปที่ระดับเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในระบบทางเดินหายใจส่วนบน และ ในปอด ทีมวิจัยพบว่า BA.2.75 สามารถติดเชื้อและเพิ่มจำนวนในปอดของแฮมสเตอร์ ได้มากกว่า BA.2 และ BA.5 อย่างมีนัยสำคัญ
ค่าปริมาณไวรัสที่ 3 วันหลังติดเชื้อในปอด เดลต้ามีสูงมากกว่า BA.2.75 ประมาณ 100 เท่า แต่ถ้าเทียบกันในกลุ่มโอมิครอน BA.2.75 พบในปอดมากกว่า BA.5 ได้สูงกว่า 100 เท่า และ สูงกว่า BA.2 เกือบๆ 1000 เท่า
โดยปริมาณไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบน ของโอมิครอนทุกสายพันธุ์ไม่แตกต่างกัน ข้อมูลดังกล่าวทำให้ทีมวิจัยคิดว่า BA.2. 75 มีการกลายพันธุ์ที่อาจทำให้ไวรัสติดเชื้อและเพิ่มจำนวนในเซลล์ปอด ได้ดีกว่าโอมิครอนสายพันธุ์เดิม
ไวรัสกลายพันธุ์เพื่อการอยู่รอด
ทีมวิจัยได้ลองทำการศึกษาต่อว่า BA.2. 75 กับ BA.5 เมื่อติดเข้าหนูในปริมาณเท่าๆกัน พบว่า ทั้งในปอดและจมูกของหนูส่วนใหญ่พบไวรัสที่แยกได้เป็น BA.2. 75 เกือบทั้งหมด ที่น่าสนใจคือ เมื่อลดสัดส่วนไวรัสลงก็มีแนวโน้มพบ BA.2. 75 ได้มากกว่า ซึ่งเป็นข้อมูลสนับสนุนว่า BA.2. 75 ติดเชื้อในปอดหนูแฮมสเตอร์ได้ดีกว่า BA.5
เป็นอีกข้อมูลนึงที่สนับสนุนว่า การเปลี่ยนแปลงของไวรัสไม่จำเป็นที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ดุน้อยลงเสมอไป การเปลี่ยนแปลงของไวรัสเป็นไปตามช่องทางที่ไวรัสมองว่าเหมาะที่สุดที่จะทำให้ตัวเองอยู่รอด หรือ เพิ่มจำนวนได้ดีที่สุดในธรรมชาติ ซึ่งจะดุขึ้น หรือ ดุน้อยลง ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องลุ้น ทำนายล่วงหน้าได้ยากครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โผล่อีก ‘ไข้หวัดมะเขือเทศ’ สาธารณสุขอินเดียตื่น สงสัย ใช่ ‘ฝีดาษลิง’ ไหม?
- กำลังท้องต้องระวัง!! เผยผลวิจัย ‘ไวรัสโควิด’ ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้
- วัคซีนโค วิด ‘เอชเอ็กซ์พี จีพีโอแวค’ ขององค์การเภสัชฯ เข้าสู่ระยะ 2
