โรคตุ่มน้ำเหมือนกัน แต่อาการต่างกัน ‘ฝีดาษลิง’ กับอีก 4 โรค โรคอีสุกอีใส เริม งูสวัด ไข้ทรพิษ ติดต่อไม่ง่าย ฆ่าเชื้อได้ด้วยแอลกอฮอล์และสบู่
พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ กล่าวว่า โดยฝีดาษวานรถือเป็น DNA VIRUS การติดต่อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง ได้ทั้งน้ำมูก น้ำลาย น้ำในตุ่มฝีหนอง น้ำเหลือง หรือน้ำต่างๆ ของร่างกาย ระยะฟักเชื้อ 7-21 วัน หรือประมาณ 3 สัปดาห์
ตุ่มน้ำฝีดาษลิงมี 4 ระยะ
ตุ่มที่เกิดขึ้นตามร่างกายสามารถขึ้นได้ทั่วตัว และมี 4 ระยะด้วยกัน ได้แก่
- ระยะที่ 1 มีตุ่มแดงขึ้น
- ระยะที่ 2 ตุ่มพัฒนากลายเป็นตุ่มนูน
- ระยะที่ 3 ตุ่มกลายเป็นหนอง
- ระยะที่ 4 ตุ่มดังกล่าวได้แตก
การแพร่เชื้อเกิดการติดต่อ จะเกิดในลักษณะของระยะที่ 3 และ 4 โดยทั่วไปโรคนี้เป็นแล้วสามารถหายเองได้ เมื่อแผลตกสะเก็ด หรือใช้การรักษาตามอาการ สำหรับคนที่จะมีอาการรุนแรง ได้แก่ คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ รับประทานยากดภูมิในคนรักษามะเร็ง หรือ ปลูกถ่ายอวัยวะ เด็กเล็กอายุต่ำว่า 8 ปี และหญิงตั้งครรภ์
5 โรค มีตุ่มน้ำเหมือนกัน แต่อาการแตกต่างกัน
เนื่องจากโรคฝีดาษวานรจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่มีลักษณะของตุ่มน้ำตามผิวหนัง ใกล้เคียงทั้งโรคอีสุกอีใส และไข้ทรพิษ เบื้องต้นทางสถาบันโรคผิวหนังวางเกณฑ์และแนวทางจำแนกแยกโรค ที่มีลักษณะอาการคล้ายคลึง หรือใกล้เคียงกับฝีดาษวานร เพื่อให้แยกโรคออก
- โรคอีสุกอีใส ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีตุ่มน้ำใสขึ้นทั่วตัว และในกระพุ้งแก้ม ช่องปาก สามารถติดต่อได้จากละอองฝอย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มอาการที่ไม่รุนแรงในกลุ่มที่มีตุ่มน้ำขึ้นตามร่างกาย ระยะฟักโรค 11-20 วัน รักษาด้วยการทานยาต้านไวรัส
- โรคเริม มีอาการป่วยนอกจากตุ่มน้ำตามร่างกายแล้ว ยังจะมีอาการอักเสบตามเส้นประสาท และทิ้งรอยโรคไว้ สามารถกลับมาป่วยซ้ำได้ โดยมีระยะฟักตัว 3-7 วัน รักษาด้วยยาต้านไวรัส
- งูสวัด เป็นการพัฒนาของเชื้ออีสุกอีใส แต่เชื้อหลบที่ปมประสาท ทำให้มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อตามร่างกาย และมีอาการแสบร้อน คันผิวหนัง ติดเชื้อได้จากสารคัดหลั่ง การรักษาเน้นยาต้านไวรัส
- ไข้ทรพิษ มีไข้สูง ปวดเมื่อย มีตุ้มผื่นขึ้น อ่อนเพลีย อาเจียน ปวดท้อง ระยะฟักตัว 7-17 วัน การรักษาเน้นประคับประคอง
- ฝีดาษวานร มีตั้งแต่ไข้ ปวดเมื่อยศีรษะตามร่างกาย ปวดหลัง และเด่นชัดต่อมน้ำเหลืองโต รักษาเน้นประคับประคอง
พญ.นฤมล กล่าวว่า ที่มีความกังวลเรื่องเชื้อในสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าเชื้อนี้สามารถฆ่าได้ด้วยแอลกอฮอล์และสบู่ ดังนั้น มาตรการหมั่นล้างมือและงดสัมผัสหรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย หรือผู้เข้าข่าย (คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย) สามารถป้องกันได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ คุมเข้ม ด่านควบคุมโรค สกัด ‘ฝีดาษลิง’ เผย สั่งซื้อวัคซีน สำหรับกลุ่มเสี่ยงแล้ว
- ป้องกัน ‘ฝีดาษ ลิง’ สธ. จัดซื้อ ‘วัคซีนฝีดาษ’ รุ่น 3 ฉีดกลุ่มเป้าหมาย
- เตรียมเแผนเผชิญเหตุ ‘ฝีดาษ ลิง’ โรงพยาบาล กทม. เฝ้าระวังคนไข้ ทั้งฉุกเฉิน และผู้ป่วยนอก