“หมอธีระ” เผยฝีดาษลิง ติดผ่านการสัมผัสเป็นหลัก กิจกรรมทางเพศในกลุ่มจำเพาะ เช่น เกย์ ไบเซ็กชวล ยังตรวจพบสารพันธุกรรมไวรัสฝีดาษลิง จากอสุจิ เลือด ปัสสาวะ นอกเหนือตามผิวหนัง
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า ฝีดาษลิงนั้น หากดูตามแผนที่การระบาด ก็จะเข้าใจชัดเจนว่าระบาดไปทั่วโลก และเป็นเหตุให้องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นปัญหาฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
ลักษณะการติดเชื้อแพร่เชื้อมาในแนวเดียวกับเอชไอวีสมัยหลายสิบปีก่อน แม้ฝีดาษลิงจะติดผ่านการสัมผัสเป็นหลัก แต่ก็สัมพันธ์กับกิจกรรมทางเพศในกลุ่มจำเพาะ เช่น เกย์ ไบเซ็กชวล ฯลฯ เป็นส่วนใหญ่
หลักฐานวิชาการปัจจุบัน มีการตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสฝีดาษลิง ในแหล่งอื่นนอกจากแผลตุ่มหนองตามผิวหนัง เช่น อสุจิ เลือด ปัสสาวะ ฯลฯ ซึ่งก็จำเป็นต้องระวัง และเฝ้าติดตามว่าจะมีส่วนในการทำให้ติดเชื้อแพร่เชื้อได้ในชีวิตจริงหรือไม่
นโยบายควบคุมป้องกันโรค และระบบเฝ้าระวังติดตามกำกับ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ทันต่อเวลา จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง มิฉะนั้นหากหลุดรอด มีการแพร่เชื้อไปได้ต่อเนื่องในชุมชน ก็จะมีโอกาสเห็นการระบาดเหมือนเอชไอวีสมัยก่อนได้
คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง รวมถึงคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมบริการ ที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิด ต้องระมัดระวัง หมั่นสังเกตอาการผิดปกติทั้งของผู้อื่นและตนเอง ถ้าสงสัยควรรีบปรึกษาแพทย์และตรวจรักษา
ตอนนี้เคสรวมทั่วโลกใกล้ 20,000 แล้ว อัตราการเพิ่มยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนามัยโลก’ เตือน ‘ฝีดาษลิง’ จ่อระบาดนาน ติดเชื้อเพิ่ม 2 เท่าทุก 2 สัปดาห์
- ‘สหรัฐ’ ใกล้วิกฤติ! เจอติดเชื้อ ‘ฝีดาษลิง’ เกือบ 3,000 ราย จ่อประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
- ผลวิจัยจากอังกฤษ ชี้ 98% ของผู้ติดเชื้อ ‘ฝีดาษลิง’ เป็นผู้ชายที่มีกิจกรรมรักร่วมเพศ