ศูนย์จีโนมฯ เผย ผู้สูงอายุ หากได้รับเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน ติดเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย อาจมีอาการอาจรุนแรง ขณะที่ ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนและเคยติดเชื้อ สู้ได้
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เรื่อง โอกาสติดเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.4”, “BA.5” และ “BA.2.12.1” ซ้ำ (re-infection)
BA.4 BA.5 และ BA.2.12.1 ระดับความเสี่ยงของบุคคลที่จะติดเชื้อซ้ำ
รายงานจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศ พบว่า จากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการ โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย (new sub-variant) BA.4, BA.5, และ BA.2.12.1 สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยดังกล่าว มักจะมีอาการไม่รุนแรง ใกล้เคียงโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม
ศาสตราจารย์จูลี่ สวอนน์ (Julie Swann) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา ที่ปรึกษาของ U.S. CDC เกี่ยวกับโรคระบาด กล่าวว่า ระดับความเสี่ยงของบุคคลที่จะติดเชื้อซ้ำ (re-infection) อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น อายุ ภาวะสุขภาพพื้นฐาน และช่วงเวลาการฉีดวัคซีนครั้งล่าสุด หรือการติดเชื้อครั้งล่าสุด
ผู้สูงอายุ หากได้รับเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน เมื่อติดเชื้อ อาจมีอาการอาจรุนแรง
หากคนในวัย 60 ปีได้รับวัคซีนกระตุ้นเมื่อ 4-6 เดือนก่อน อาจมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อซ้ำได้ ด้วยโอไมครอน สายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ และอาจมีอาการรุนแรง (severe)ได้ ตรงข้ามหากคนวัย 60 เช่นกันแต่เพิ่งติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาก่อนหน้าหรือ ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นภายในระยะเวลา 3-4 เดือน หากติดเชื้อโอไมครอน สายพันธุ์ย่อยที่เพิ่งอุบัติขึ้นมา (new sub-variant) จะมีอาการของโรคโควิด-19 ที่ไม่รุนแรง (mild)
ผู้ที่ฉีดวัคซีนและเคยติดเชื้อ อาจมีภูมิคุ้มกัน สู้กับสายพันธุ์ใหม่ได้
ศาสตราจารย์ อเล็กซ์ ซิกัล (Alex Sigal) นักไวรัสวิทยาที่สถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาในแอฟริกาใต้ ระบุว่าผู้ที่เคยทั้งฉีดวัคซีนและติดเชื้อด้วยสายพันธุ์โอไมครอนดั้งเดิมมาก่อน อาจมีภูมิคุ้มกันที่กว้างกว่า (broader) ที่สามารถต่อสู้กับโอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งอุบัตขึ้นมาได้
ฺBA.1 สูญพันธุ์แล้ว ไทยยังไม่เจอสายพันธุ์ใหม่ และมีอัตราฉีดวัคซีน 80%
ส่วนประเทศไทย มีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในเกณฑ์สูงถึง 80% ซึ่งสูงกว่าอังกฤษ อเมริกา เยอรมันนี และ อินเดีย
และจากการที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ร่วมกับสถาบันการแพทย์ทั่วประเทศ สุ่มถอดรหัสพันธุกรรม ทั้งจีโนมของไวรัสโคโรนา 2019 พบว่า BA.1 สูญพันธุ์ไปแล้ว ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อ BA.2 รายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่พบโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4, BA.5 และ BA.2.12.1 ระบาดในประเทศ
ขณะที่การสุ่มถอดรหัสพันธุกรรม BA.4 ทั้งจีโนมจากตัวอย่างทั่วโลกและซับมิทขึ้นบนฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” พบแล้ว +667 ราย ประมาณว่าน่าจะมีการระบาดอยู่ประมาณ +2,652 ราย
มีการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรม BA.5 ทั้งจีโนมจากทั่วโลกและซับมิทขึ้น “GISAID” เรียบร้อยแล้ว +318 ราย ประมาณว่าน่าจะมีการระบาดอยู่ +1,000 ราย
ล่าสุดมีการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรม BA.2.12.1 ทั้งจีโนมจากทั่วโลกและซับมิทขึ้น “GISAID” ไปแล้ว +10,233 ราย ประมาณว่าน่าจะมีการระบาดอยู่ ทั่วโลกกว่า +40,000 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กทม. เตรียม ‘คูหาพิเศษ’ รองรับผู้ติดเชื้อ ใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ พร้อมออกแนวปฏิบัติ ป้องกันโควิด
- นายกฯ สั่งศธ. กำชับทุกโรงเรียน ‘เข้ม 7 มาตรการ’ ก่อนเปิดเทอมออนไซต์ กลางเดือนนี้
- พม.โพล เผยโควิดกระทบสังคมไทยทุกด้าน โดยเฉพาะ เรื่องปากท้อง และ การเรียน