Politics

แนะ ‘งดทานอาหารร่วมกัน’ 2 สัปดาห์ ลดติดเชื้อในครอบครัว เผยให้ รพ.สต. ฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ได้ผล

สธ.เผย กลยุทธ์ รพ.สต. ชวนผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีนได้ผล แต่ภาพรวมยังไม่ถึงเป้า แนะ ‘งดทานอาหารร่วมกัน’ 2 สัปดาห์ หวั่นพาเชื้อกลับมาแพร่ในครอบครัว

วันนี้ (19 เมษายน 2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รณรงค์ให้ลูกหลานที่เดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ พาผู้สูงอายุไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยกระจายวัคซีนโควิด 19 ไปถึงระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศ เพื่อให้มารับวัคซีนใกล้บ้านได้สะดวก

งดทานอาหารร่วมกัน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข

ส่วนยอดการฉีดวัคซีนโควิด 19 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเฉลี่ย 6 หมื่นโดสต่อวันนั้น เป็นจำนวนการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาล ยังไม่รวมการฉีดจาก รพ.สต. ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการรายงานเข้าระบบ

ใช้กลไก รพ.สต. ส่งเสริมฉีดวัคซีนช่วงสงกรานต์ได้ผล ผู้สูงอายุมารับวัคซีนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ จากการติดตามพบว่า การใช้กลไก รพ.สต.เพื่อส่งเสริมการฉีดวัคซีนช่วงสงกรานต์ ทำให้มีผู้เข้ามารับวัคซีนจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังไม่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากเดินทางลำบากหรือไม่มีคนพาไป ก็ได้ลูกหลานพามาฉีดใกล้บ้าน

รวมถึงบางจังหวัดยังมีการใช้กลยุทธ์ พาเข็มไปหาแขน ส่วนข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียงก็ได้เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ช่วยสื่อสารทำความเข้าใจ ทำให้ยินยอมมารับวัคซีนมากขึ้น โดยจำนวนการฉีดจาก รพ.สต.จะทยอยรายงานเข้าระบบและจะได้ผลสรุปเร็วๆ นี้

งดทานอาหารร่วมกัน

งดทานอาหารร่วมกันในครอบครัว 2 สัปดาห์ ลดเสี่ยงแพร่เชื้อ หลังสงกรานต์

นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ช่วงหลังสงกรานต์อาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มเสี่ยง 607 คือ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง จะมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ จึงต้องช่วยกันเข้มมาตรการทำตนเองให้ปลอดเชื้อ (Self Clean Up) ด้วยการทำงานที่บ้าน 7 วัน ตรวจ ATK ก่อนกลับเข้าทำงาน

และใช้มาตรการ 2U คือ Universal Prevention ป้องกันตนเองขั้นสูงสุด โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ลดการรวมตัวรับประทานอาหารภายในบ้าน โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์นี้

งดทานอาหารร่วมกัน

เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อไปยังผู้สูงอายุในบ้าน และ Universal Vaccination โดยขอความร่วมมือประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยังมีความครอบคลุมประมาณ 36%เฉพาะผู้สูงอายุฉีดเข็มกระตุ้นครอบคลุม 39.4% ซึ่งตามเป้าหมายต้องการให้ได้ประมาณ 80% เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ ลดความรุนแรงและการเสียชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo