Politics

ลุ้นระทึก!! ‘นายกรัฐมนตรี’ จ่อลงนามเงื่อนไขเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้

ลุ้นระทึก!! “นายกรัฐมนตรี” เตรียมลงนามตามแผนเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 คาดประกาศอย่างเป็นทางการ 22 ตุลาคมนี้

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งถึงการเตรียมการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามแผนที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาและเห็นชอบเรียบร้อยแล้วนั้น

นายกรัฐมนตรี

ลุ้นลงนามเปิดประเทศ

ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของประเทศที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทย ว่าจะเป็นประเทศใดบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขสำคัญทั้งมาตรการด้านสาธารณสุข การท่องเที่ยวและมาตรการป้องกันควบคุมโรค ในการเข้า-ออกของประเทศปลายทางและประเทศต้นทาง ให้เกิดความรัดกุมรอบคอบ ทำให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ คาดว่ารายละเอียดการเปิดประเทศจะแล้วเสร็จในวันนี้ จากนั้นจะรายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ลงนามและประกาศได้ภายในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ และให้มีผลบังคับใช้ต่อไปโดยไม่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่อีก เพื่อให้ผู้ประกอบการ ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงนักท่องเที่ยวเตรียมความพร้อม โดยรายละเอียดดังกล่าวจะครอบคลุม แผนการเปิดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

นายกรัฐมนตรี

เร่งทำความเข้าใจประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมพร้อมเปิดพื้นที่บลูโซน และ 3 แนวทางเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขานรับนโยบายเดินหน้าเปิดประเทศรับการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้ตอบรับแนวนโยบายการเปิดประเทศ พร้อมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานพูดคุยและทำความเข้าใจกับสถานประกอบการต่าง ๆ ให้เข้าใจถึงสถานการณ์ และความจำเป็นในการดำเนินมาตรการของรัฐบาล ตลอดจนขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย รวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศด้วย

นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่บลูโซนนั้น เป็นมาตรการเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น แรงจูงใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยสามารถกำหนดหรือปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคให้เป็นไปตามระดับการจัดการตามพื้นที่เฝ้าระวังได้เอง และสามารถเปิดกิจกรรมได้ทุกประเภท ยกเว้นสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกันที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด รวมถึงห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 500 คน

“รัฐบาลเชื่อมั่นว่านโยบายการเปิดประเทศดังกล่าว จะมีส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้ รวมไปถึงการพลิกโฉมประเทศด้วย อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและมาตรการควบคุมดูแลทางสาธารณสุขที่เป็นระบบ” นายธนกร กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo