Politics

หึ่ง!! ‘บิ๊กดีล’ ลดความรุนแรง ศึกซักฟอกพรุ่งนี้ จริงหรือ?

31 สิงหาคม 2564 แล้วซินะ ที่ฝ่ายค้านได้ฤกษ์ อภิปราย ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มีทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชายวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำหรับรัฐมนตรีล้วนเป็นเจ้ากระทรวงหลักทั้งนั้น

พรุ่งนี้แล้วซินะ!!  จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เห็นพรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน มุ้งเล็ก มุ้งใหญ่ ท่าทีดูขึงขัง เรียกประชุมเตรียมความพร้อมกันยกใหญ่วันนี้ เพื่อรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมเตรียมข้อมูลการอภิปราย 4 วันเต็ม ๆ
แต่ใครจะเชื่อว่าวันนี้ ยังไม่ทันได้เริ่มเปิดอภิปรายลงมือเชือดรัฐมนตรีที่เอ่ยนามกันไว้แต่ละคน  แต่กลับมีเรื่องน่าเศร้าใจโผล่ขึ้นมาเป็นระยะ ๆ เสียแล้ว ทำเอากลุ่มที่มีความตั้งใจจะอภิปรายการบริหารงานของของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 5 คน ออกอาการระส่ำกันไปเอง เรียกว่า “เทกันแต่หัววัน” ทั้งๆที่ตั้งใจมากกับการยื่นอภิปรายรอบนี้ เริ่มถูกลอยแพตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวทีซะงั้น!!
อภิปราย
มีเสียงเม้าท์สนั่น เริ่มมีกระบวนการ “สั่งการ ขอร้อง” ทำนองห้ามอภิปราย ห้ามพูดจารุนแรงกับผู้ถูกอภิปราย รวมไปถึงการเตรียมการที่จะเปลี่ยนขุนพลอภิปราย แต่หากไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้ ก็ขอให้ปรับโทนการอภิปราย ห้ามใช้วาจาเสียดสี รุนแรง รวมไปถึงข้อมูล โดยอ้างเหตุผลว่าตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ ที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด นั่นหมายถึงว่าการอภิปรายรอบนี้ คงทำในลักษณะไม่ต้องหวังผลอะไรมากนัก!! ได้ยิน ได้ฟัง เรียกว่าอึ้งไปเลยทีเดียว
เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้ย่อมที่จะมีคนเดินเกม เปิดดีล เป็นเรื่องปกติ เม้าท์กระจายเป็น “อดีตบิ๊กตำรวจ” นายหนึ่ง ที่คอยเดินเกมประสาร ทำตัวเป็น “องครักษ์พิทักษ์นาย” ส่วนกลุ่มที่อาสารับเจรจางานนี้มีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นผู้ซึ่งใครก็รู้จักเรียกว่า“ขาใหญ่” ตอนนี้ ส่วนอีกกลุ่มเป็นนักพูดฝีปากกล้า เรียกว่าอดีตดาวสภามาก่อน ทั้งสองกลุ่ม ทำตัวเป็นโต้โผใหญ่รับดีลงานนี้ คงไม่ต้องเอ่ยนามว่าเป็นใคร คอการเมืองรู้ดีคือใคร?
หนักไปกว่านี้บางคนไม่มีชื่อถูกอภิปราย ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะรอด แต่ก็รอดไปได้ เม้าท์กันสนั่น มีสะพัดออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน ปลายทางเป็นใคร ไม่ต้องเอ่ยนามเช่นกัน ในสถานการณ์อย่างนี้ แต่สามารถลบชื่อใครบางคนออกไปได้
ฉะนั้นถ้าเสียงที่เล็ดลอดออกมา มันคือ “ความจริง” บอกได้เลยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แทบไม่มีความหมายอะไร ไม่ว่าจะเป็น ผู้ถูกอภิปราย ผู้อภิปราย หรือแม้แต่ประชาชนที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟังข้อมูล หรือทีเด็ดจากผู้อภิปรายครั้งนี้
หากทว่ามีพวกมือดีเข้ามาฉกคั่นกลาง “ชุบมือเปิบ” จนทำให้การอภิปรายไม่เป็นดั่งหมาย เข้าล็อกที่มีการคาดการณ์ไว้ ไม่ต่างอะไร กับสภาพ “มวยล้มต้มคนดู” ก็อย่ายื่นอภิปรายกันเลย จะได้ไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแอร์ ในรัฐสภา เพราะทุกอย่างมันคือภาษีประชาชนนั่นเอง
ถ้าปรากฎการณ์อย่างที่เล็ดลอดออกมา การเตรียมการของแกนนำสำหรับผู้ที่ถูกอภิปราย แทบไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลที่ต้องจัดเตรียมชี้แจง หรือแม้แต่ “ขุนพลองครักษ์พิทักษ์นาย” แต่ละคนบอกเลยไม่มีความจำเป็น ถ้าเดินเกมกันอย่างนี้จริง การลุกขึ้นมาระดมประชุมเตรียมการเพื่อรับมือการอภิปรายของรัฐมนตรีแต่ละคน อาจเป็นเพียงพิธีการก็แค่นั้น
การอภิปรายรอบนี้ไม่ต่างอะไรจากการ“ปาหี่การเมือง”อีกระลอก แต่หากสิ่งที่เล็ดลอดออกมาไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการสร้างข่าวขึ้นมา ก็หวังว่าการอภิปรายไม่วางไว้ใจรอบนี้ น่าจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ฟังทั้งประเทศ ที่สำคัญไม่เสียเวลาในการฟัง แต่หากทุกอย่างเป็นแค่“ปาหี่การเมือง”ระวังประชาชนจะลงโทษ และจะถูกสังคมกล่าวหาได้ว่า เข้าสู่ยุคสมคบกันแล้ว!! เชื่อเถอะ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศสมัยนี้เขาก็รู้เท่าทันกันหมดแล้ว
IMG 20210216143656000000 e1630247832170
ไม่แปลกใจที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้กลับไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ติดร่างแหอย่างที่เป็น ทั้งๆที่โอกาสเล็อดลอดออกไปก็มีน้อยเต็มที แต่สุดท้ายทั้งคู่ ถูกเขี่ยชื่อ ออกจากบัญชีการอภิปรายรอบนี้ หลายคนบอกเคลียร์จบ หลายคนบอกว่า ยังมีอะไรเกิดขึ้นได้กับดีลการเมืองในวันข้างหน้า ฉะนั้นทั้งสองชื่อ ยังไม่จำเป็นต้อง“ขึ้นเขียง” รอบนี้ แล้วทำไม? ต้องเป็น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” 
มาถึงวันนี้จะไม่อภิปรายก็ไม่ได้แล้ว เพราะยื่นญัตติไปแล้ว แต่งานนี้เชื่อเถอะ  มีรายการ “ซื้อขาย” เกิดขึ้นล่วงหน้าไปแล้ว ส่วนจะเป็นกลุ่มไหน เป็นใครย่อมรู้แก่ใจ บางกลุ่มเริ่มเจรจาเข้ามา เพื่อเสริมคะแนนให้กับผู้ถูกอภิปราย อย่างน้อย 3-4 คน เรียกว่ามีไว้ให้อุ่นใจ ว่ามีจำนวนคะแนนไว้วางใจในระดับน่าพอใจ  เผื่อมีเหตุการณ์คนในพรรคร่วมด้วยกันไม่ปราถนาจะยกมือหรือแปรพักตร์
แต่เอาเถอะ……ถึงอย่างไรการอภิปรายรอบนี้ เชื่อว่าทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคนโหวตผ่าน  แต่จะมีคะแนนมากน้อยต่างกันอย่างไร อยู่ที่พลังต่อรองจำนวน แต่รับรองได้ทุกคนผ่านฉลุย!!!
แต่สำหรับฝ่ายค้าน การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อว่าจะเอาลง หรือล้มรัฐบาลไปได้ หากแต่ทว่า ยังมีบางกลุ่มฉกฉวยโอกาส ใช้เกมการอภิปรายเป็นเครื่องมือต่อรองอย่างนี้ มีหวังความเชื่อศรัทธา จะจบสิ้น หากการอภิปรายมีบางกลุ่มคอยแต่จะหวังผลประโยชน์ ความจริงก็ไม่ก่อเกิด มีแต่เวลาเสียศรัทธาในที่สุด!! แต่ก็น่าเห็นใจฝ่ายค้านกลุ่มที่มีความตั้งใจอภิปรายแต่ถูกเทแบบไม่รู้ตัวซะงั้น!!
อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight