ศบค.เตรียมยกระดับมาตรการคุมโควิดเทียบเท่าเมษายน ปี 63 บังคับใช้จันทร์นี้ ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ลดการเดินทางข้ามจังหวัด ปิดสถานที่เสี่ยง ให้ทำงานที่บ้าน100%
หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขจะมีการยกระดับเพิ่มมาตรการเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทั้งลดการเดินทางข้ามจังหวัด การปิดสถานที่เสี่ยง รวมไปถึงการทำงานที่บ้าน 100%
มีรายงานข่าวแจ้งว่า จะมีการกลับไปบังคับใช้มาตรการเช่นเดียวกับช่วงเดือนเมษายน 2563 โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 19 กรกฎาคม 2564
สำหรับมาตรการล็อกดาวน์ช่วงเดือนเมษายน 2563 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินยกระดับสู่มาตรการขั้นสูงสุด ล็อกดาวน์ระดับประเทศตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) มีดังนี้
1. ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง ตามที่แต่ละจังหวัด ได้มีคำสั่ง
2. ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค อาทิ สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามม้า ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงหรือละเล่นสาธารณะ สถานประกอบการ อาบ อบ นวด และนวดแผนโบราณ สปา สถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส) สถานบันเทิง
ส่วนสถานที่อื่นๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑสถาน ห้องสมุดสาธารณะ ศาสนสถาน สถานีขนส่งหรือโดยสาร ตลาด ห้างสรรพสินค้า ให้พิจารณาปิดเฉพาะส่วนหรือทั้งหมด แล้วแต่กรณี
3. ปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้ง อากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด ทั้งทางบก อากาศ และทางน้ำ
4. ห้ามกักตุนสินค้า ทั้งยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม หรือสินค้าจำเป็นต่ออุปโภคบริโภค ในชีวิตประจำวัน
5. การห้ามชุมนุม มิให้ชุมนุม ทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ สถานที่แออัดใด หรือยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
6. การเสนอข่าว ห้ามเสนอข่าวเท็จ ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว
ทั้งนี้ โรงพยายาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหาร ในส่วนที่ไม่ใช่สถานบันเทิง หรือสถานบริการ และแผงจำหน่ายอาหาร ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า ส่วนแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา แผนกอาหาร แแผนกสินค้าเบ็ดเตล็ด ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ตลาดและตลาดนัดส่วนอาหารสด แก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส การให้บริการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้ำ รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง เปิดได้ตามปกติ
ข้อกำหนด ยังห้ามให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็น หรือผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ธนาคาร ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ และบางอาชีพ
ทั้งนี้ ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 22) ได้ประกาศเพิ่มเติมโดย ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการแพร่โรคเมื่ออยู่เคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ ร้านจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลักษณะนำกลับ งดบริโภคอาหาร เครื่องดื่มสุรา ที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดถึงเวลา 21.00 น. กำหนดพื้นที่ควบคุม และงดเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา!! ‘ศปก.ศบค.’ เตรียมงัดยาแรงคุมเข้มโควิด จ่อปิดกิจกรรม-กิจการ 100% ในพื้นที่สีแดงเข้ม
- ‘นายกรัฐมนตรี’ สั่งกองทัพระดมกำลังหยุดเชื้อโควิดพื้นที่สีแดงเข้ม!
- ‘บิ๊กตู่’ ห่วงยอดผู้ป่วยโควิดพุ่ง สั่งปรับแผนตรวจเชื้อแบบ Antigen Test Kit ได้