Politics

‘หมอศิริราช’ แนะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ตัดสินใจที่เด็ดขาดกันดีไหม

“หมอนิธิพัฒน์” ร่ายยาววิกฤติโควิด ตั้งแต่ระลอกแรกยันระลอกสี่ แม้จะมีล็อกดาวน์ แบบจำกัดขอบเขต ผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจพุ่งขึ้นราว 50% ยอมรับยอดจริงอาจจะสูงกว่านี้  แนวโน้มที่ดูจะมืดมน ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดดีไหม #จับตาปรับการล็อกดาวน์

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความระบุ เรามาถึงสถานการณ์ตรงนี้กันได้อย่างไร วิกฤตโควิดระลอกแรก เราใช้เวลากันไม่ถึงสามเดือน สยบเจ้าตัวร้าย ด้วยมาตรการล็อคดาวน์ ประเทศ ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ เราวางแผนกันไว้ว่าจะพยายามหน่วงเหนี่ยวการระบาดไว้ไม่ให้หนักเกินศักยภาพทางการแพทย์ เพื่อรอการเตรียมปริมาณวัคซีนให้เพียงพอแบบพึ่งตัวเองได้ แล้วเริ่มระดมฉีดวัคซีนในไตรมาสที่สามและสี่ของปีนี้ รวมถึงไตรมาสแรกของปีหน้า และถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะเริ่มผ่อนคลายตามวิถีชีวิตใหม่ได้ในช่วงสงกรานต์ปีหน้า ควบคู่ไปกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติที่เดินหน้าเต็มสูบ

จะโทษพ่อเมืองสาครดีไหม วิกฤตโควิดระลอกสอง ก่อกำเนิดในพื้นที่ปกครองของท่านก่อนสิ้นปีเก่าที่แล้วไม่นาน ทั้งที่เป็นเรื่องที่มีคนอื่นชักศึกเข้าบ้านที่ท่านดูแลอยู่โดยแท้ ยังดีว่าการระบาดมีความหนาแน่นเป็นบางหย่อมของประเทศ เราจึงได้ยินเรื่องของมาตรการระดับสีต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ตามปริมาณผู้ป่วยรายวัน และคำว่า ล็อคดาวน์ เริ่มจางหายไป แม้จะมีพวกสายเหยี่ยวคอยกระตุกให้หัวเรือใหญ่เอามาตรการนี้กลับมาใช้เป็นครั้งคราว แต่พวกสายพิราป ที่ไม่รู้ว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมจริงไหม ก็มักจะได้รับชัยชนะ เราจึงเห็นมาตรการทางการแพทย์จำนวนมากออกมาแต่หาคนช่วยสอดส่องให้ทำตามได้ยาก คู่ไปกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจฝันเฟื่องจำนวนมากกว่ามากมายที่หลายฝ่ายเสนออกมา ยิ่งได้รับแรงกระตุ้นจากการเริ่มฉีดวัคซีนโควิดในต่างประเทศ ความหวังจึงเรืองรองขึ้นมาโดยพลัน

ช่วงกลางต่อปลายเดือนมีนาคมปีนี้ วิกฤตโควิดระลอกสาม ระอุขึ้นกลางเมืองหลวง แล้วลุกลามเป็นวงกว้างท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายจัดหา จัดซื้อ และจัดสรรวัคซีน มีการชิงไหวชิงพริบของตัวละครที่มีหน้าที่ในการควบคุมโรคทั้งทางตรงและทางอ้อมกันจนน่าเวียนหัว ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มสับสนและเบื่อหน่ายสถานการณ์ในภาพรวมจนทนกันจะไม่ไหว โรดแมปของประเทศเรื่องวัคซีนและการฟื้นฟูประเทศจึงคลุกฝุ่นไม่เป็นท่า

ล็อกดาวน์9999

 

ลุมาถึงต้นเดือนที่แล้ว เจ้าตัวเปลี่ยนเกมสายพันธุ์เดลตา นำมาซึ่งวิกฤตที่ผมเรียกว่าระลอกสี่ การระบาดกระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนล้นเกินศักยภาพของภาคการแพทย์ที่เตรียมไว้หลายเท่าตัว บุคลากรทางการแพทย์เริ่มอ่อนล้า ผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โควิดได้รับผลกระทบรุนแรง นำมาซึ่งการประชุมเครียดร่วมกันระหว่างภาคการแพทย์และฝ่ายบริหารสูงสุดของรัฐในวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย. และออกมาเป็น มาตรการล็อคดาวน์แบบจำกัดขอบเขต ที่ผ่านมาแล้ว 9 วัน จากเป้าหมาย 30 วัน โดยที่ยังไม่ได้ตกลงกันชัดเจนว่าจะใช้อะไรเป็นดัชนีชี้วัด

สองวันก่อนหลังเลิกประชุมเตรียมความพร้อม ทางการแพทย์รับมือโควิด ผมมีโอกาสนั่งคุยเป็นการส่วนตัวกับแพทย์อาวุโส ที่เคารพท่านหนึ่ง ในฐานะรุ่นพี่และผู้บังคับบัญชา เราเคยร่วมงาน ร่วมกิน ร่วมเที่ยว พร้อมพบปะลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศ ระยะหลังแม้จะห่างหายกันไป ตามทางของแต่ละคน ก็เจ้าโควิดนี่แหละชักนำให้ต้องมาร่วมงานใกล้ชิดกันอีกครั้ง เราเม้าท์มอยถึงบรรยากาศการประชุม เมื่อศุกร์ก่อนกันกว่าชั่วโมง ผมในฐานะละอ่อนนับเป็นบุญหัว ที่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม ได้เห็นความเป็นไปของตัวละครทั้งที่โลดแล่นพลิกพลิ้วกระบวนท่าไปตามที่ตนถนัด ได้เห็นความมุ่งมั่นของคนนั่งหัวโต๊ะ ที่พยายามหาข้อสรุปเชิงปฏิบัติที่ทุกฝ่ายพอรับร่วมกันได้ ยิ่งได้รับการชี้แนะถึงเบื้องหลังตัวละครในวันนั้น จากเหล่าซือของผมด้วยแล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจเนื้อหาของละครเรื่องนี้ได้แจ่มชัดขึ้น และกระสันอยากติดตามชมว่า ตอนจบผลจะเป็นอย่างไร

ถึงวันนี้แล้วแม้ยอดผู้ป่วยรายใหม่รายวัน จะไม่เพิ่มขึ้นฮวบฮาบ แต่จำนวนผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจพุ่งขึ้นราว 50% ภายใน 36 วัน โดยยอดแท้จริงอาจสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้านับรวมรายที่แพทย์และญาติ พิจารณาไม่ใสท่อช่วยหายใจ หรือรายที่ใส่ท่อช่วยหายใจไว้แล้ว แต่ยังหาเตียงรับเข้าในไอซียูโควิดไม่ได้ ในท่ามกลางแนวโน้มที่ดูจะมืดมน สำหรับจุดการประเมินกึ่งกลางมาตรการที่ 15 วัน เราจะยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดกันดีไหม เหมือนการแบ่งช่องว่างในกระเพาะอาหารจากบะหมี่ต้มยำลูกชิ้นปลาแสนอร่อยมื้อกลางวันนี้ เพื่อเหลือที่ให้กลับข้าวเหนียวมะม่วงแสนโอชะ

แต่สำหรับแฟนทีมสิงโตคำรามคืนนี้อาจจะอดทั้งเปรี้ยวและหวานก็ได้ อย่าไปประมาททีมโคนมเชียวนะ ประวัติศาสตร์ปี 1992 อาจตามมาหลอกหลอน แต่ถึงอย่างไรประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอยทั้งหมดเสียทีเดียว คนอิตาลีน่าจะชอบและน่าจะได้กินของหวานมากที่สุด

#เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดรับมือโควิดระลอกสี่ #จับตาปรับการล็อกดาวน์ #อิตาลีแชมป์ยูโร2020

ผู้ป่วยหนัก e1625670026732

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight