Politics

ยอดติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 150 ล้านคนแล้ว! จี้ล็อคดาวน์พื้นที่เสี่ยงสูง

“หมอธีระ” เผยยอดติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 150,189,056 คน เสียชีวิตรวม 3,162,701 คน ลั่นศัตรูที่ชื่อ “โควิด-19” มันร้ายกาจมาก จี้ล็อคดาวน์พื้นที่เสี่ยงสูง

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 29 เมษายน 2564… ทะลุ 150 ล้านไปแล้ว ในขณะที่อินเดียทำลายสถิติอีกครั้ง ติดเพิ่มเกือบสามแสนแปดหมื่นคน และมีจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันสูงที่สุดในโลกกว่าสามพันหกร้อยคน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 895,542 คน รวมแล้วตอนนี้ 150,189,056 คน ตายเพิ่มอีก 15,478 คน ยอดตายรวม 3,162,701 คน คงต้องจับตาดูว่าระลอกล่าสุดนี้จะมีจำนวนการตายสูงสุดต่อวันมากกว่าเดิมหรือไม่ สถิติเดิมอยู่ที่ 17,347 คน ณ วันที่ 20 มกราคม 2021

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดยังคงเป็น อินเดีย บราซิล อเมริกา ตุรกี และฝรั่งเศส

หมอธีระ

  • อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 52,358 คน รวม 32,979,449 คน ตายเพิ่ม 834 คน ยอดเสียชีวิตรวม 588,217 คน อัตราตาย 1.8%
  • อินเดีย เกิน 18 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว วันเดียวติดเพิ่มมากถึง 379,459 คน รวม 18,368,096 คน ตายเพิ่ม 3,647 คน ยอดเสียชีวิตรวม 204,812 คน อัตราตาย 1.1%
  • บราซิล ติดเพิ่ม 74,748 คน รวม 14,521,289 คน ตายเพิ่มถึง 2,861 คน ยอดเสียชีวิตรวม 398,185 คน อัตราตาย 2.7%
  • ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 31,539 คน ยอดรวม 5,565,852 คน ตายเพิ่ม 315 คน ยอดเสียชีวิตรวม 103,918 คน อัตราตาย 1.9%
  • รัสเซีย ติดเพิ่ม 7,848 คน รวม 4,787,273 คน ตายเพิ่ม 387 คน ยอดเสียชีวิตรวม 109,367 คน อัตราตาย 2.3%
  • อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
  • แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
  • ล่าสุดมาเลเซียเป็นขาขึ้นของระลอกสามอย่างชัดเจน จำนวนการติดเชื้อต่อวันมากขึ้นเกินสามพันคนแล้ว
  • แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า
  • แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง
  • เกาหลีใต้ และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่เวียดนาม นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…การประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนจัดการรับมือนั้น ต้องรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนสังเคราะห์ออกมาเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

ยังจำได้สมัยระลอกสองเริ่มใหม่ ๆ วงบริหารหนึ่งเคยแซวว่าชอบมาขู่ให้กลัว หลังจากที่ได้รับฟังการนำเสนอ คาดการณ์ว่าจะรุนแรงกว่าระลอกแรก และมียอดการติดเชื้อต่อวันสูงสุดราว 5 เท่า หรือ 940 คนต่อวัน โดยใช้เวลาในการต่อสู้ยาวนาน 2 เท่าหรือ 88 วัน และคาดว่าจะมีคนติดเชื้อจากระลอกสองนี้ระหว่าง 23,635 – 33,088 คน

เวลาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเราสิ้นสุดระลอกสองด้วยตัวเลขใกล้เคียงประมาณนั้น

ระลอกสามนี้ หากจำกันได้ เคยเตือนแล้วเช่นกันว่าจะเกิดขึ้นได้แน่ เป็นผลต่อเนื่องจากระลอกก่อนหน้า เพราะเห็นจากบทเรียนต่างประเทศมากมายหลายประเทศที่เผชิญมาก่อนเรา

ปัจจัยหลักจะแปรผันตามจำนวนการติดเชื้อต่อวันที่กดได้จากระลอกก่อนหน้านั้น และนโยบายแวดล้อมที่จะส่งผลต่อเรื่องความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการนำเชื้อเข้ามา หรือระบบการกักตัว รวมถึงระดับความเข้มแข็งภายในประเทศ เช่น ระบบการตรวจคัดกรองโรค การจัดซื้อจัดหาเตรียมอาวุธป้องกันที่มีประสิทธิภาพและปริมาณมากเพียงพอ และการผ่อนคลายมาตรการใช้ชีวิตของประชาชน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเราประจักษ์ชัดแล้วว่า ศัตรูที่ชื่อโควิด-19 นี้มันร้ายกาจมาก และระบาดกระจายทั่วไป สิ่งที่เราทุกคนจะทำได้คือ ช่วยกันสู้ยิบตา เพื่อปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง ครอบครัว และเพื่อประเทศของเรา

เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา และระแวดระวังอย่าหวนกลับไปทำซ้ำอีก

ใส่หน้ากากเสมอ ปิดจมูกปิดปาก ใส่สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า

พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวเสมอ ล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้งหลังจับต้องสิ่งของสาธารณะ

อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร เจอกันน้อย ๆ สั้น ๆ

ระวังเรื่องสุขาสาธารณะ ปิดฝาก่อนชักโครก ล้างมือทุกครั้ง และใส่หน้ากากเสมอ

เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ซื้อกลับจะดีกว่า

ไม่ตะลอนท่องเที่ยว หรือพบปะสังสรรค์

คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดงาน แล้วรีบไปตรวจรักษา

ระบาดช่วงถัดจากนี้ มีโอกาสเกิดทั้งที่ทำงานต่าง ๆ ห้าง ร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ขนส่งสาธารณะ รวมถึงในที่พักอาศัย ทั้งบ้าน แฟลต หอพัก คอนโด อพาร์ตเมนท์ และชุมชนที่แออัด จึงต้องระวังอย่างยิ่ง

ที่สำคัญที่เราควรพิจารณาระดับนโยบายคือ

หนึ่ง “ไม่ควรโปรโมทให้คนท่องเที่ยว” เพราะระบาดต่อเนื่อง ได้จะไม่คุ้มเสียอย่างยิ่ง

สอง ควรจัดหาวัคซีนที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย เพื่อให้ใช้ได้หลายสถานการณ์ และมีปริมาณครอบคลุมทุกคนในประเทศ โดยรวมถึงคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศด้วย

สาม ระบาดระดับที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้ จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มข้นเพียงพอที่จะหยุดการระบาด การล็อคดาวน์ระยะสั้นในพื้นที่จังหวัดหรือภาคที่มีจำนวนการติดเชื้อต่อวันเกิน 10 คน เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพื่อจัดการการระบาด ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะน้อยกว่า และจะช่วยให้ระบบสุขภาพมีเวลาฟื้นฟูสภาพ

สี่ เร่งเพิ่มศักยภาพระบบการตรวจคัดกรองโรค

ในสถานการณ์ปัจจุบัน การตัดสินใจข้างต้น ผมคิดว่าประชาชนทุกภาคส่วนน่าจะพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
เพื่อที่จะทวงชีวิตความเป็นอยู่กลับคืนมาจากโควิด-19

ประเทศไทยต้องทำได้ ถ้าเราทุกคนช่วยกัน

ด้วยรักและห่วงใย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK