Politics

‘การ์ดอาชีวะ’ โต้กลับ ซัดตำรวจทำไม่ถูก ยันมือปืนไม่ใช่การ์ดม็อบ

การ์ดอาชีวะ ยืนยัน มือปืนไม่ใช่การ์ดม็อบ ชี้ตำรวจทำไม่ถูก ถามกลับ สืบสวนชัดเจนหรือยัง พร้อมขอโทษสื่อโดนผลัก

เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (26 พ.ย.)  นายเกวลัง ธัญญะเจริญ หัวหน้าการ์ดภาคีประชาชน หรือ เก่ง อาชีวะ และบก.เอ็ม ปลดแอก ชี้แจงกรณีที่นายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะ ถูกกลุ่ม การ์ดอาชีวะ รุมทำร้าย หลังก่อเหตุปาระเบิดปิงปอง และยิงปืนใส่กลุ่มการ์ดอาชีวะ จนนายประภากร ศักดิ์ศรีเท้า อดีตนักศึกษาอาชีวะ บาดเจ็บถูกปืนยิงเข้าหน้าท้อง เหตุเกิดหลังการชุมนุมของกลุ่มราษฎรวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ม็อบ 2 27 696x522 1

นายเกวลัง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ไม่หวังดีประมาณ 8 คนเข้ามาทำร้าย และก่อเหตุ โดยระหว่างนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ก็ได้สอบถามผู้ก่อเหตุที่ถูกทำร้ายว่ายิงปืนทำไม เจ้าตัวอ้างเป็นการ์ดอาชีวะ ตนยืนยันไม่ใช่การ์ด เพราะทีมงานไม่เคยพบ และหากเป็นการ์ดจริงต้องสวมปลอกแขน แต่ความจริงคนยิงไม่ได้ใส่ และไม่สวมเสื้อสถาบัน

“พวกเราเก็บกระเป๋าคนยิงส่งตำรวจได้ และไม่พบปลอกแขนการ์ดอาชีวะ มีเพียงเอกสารประจำตัวบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งปลอกแขนที่ทำขึ้นมา เราจะมีสัญลักษณ์ที่รู้กันภายใน โดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความกลมกลืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม บางทีมอาจสวมริบบิ้น หรือสร้อย เพื่อเป็นจุดสังเกต”

นายเกวลัง กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นเมื่อประกาศยุติการชุมนุมประมาณ 30-40 นาที โดยมีคนเดินเข้ามาหาเรื่องกลุ่มคนเจ็บหน้าร้านอาหารดัง ก่อนปะทะคารมกัน  แล้วเกิดการชกต่อยกับการ์ดอาชีวะ จากนั้นมีคนร้ายขว้างระเบิดเข้ามา และกลุ่มผู้ก่อเหตุก็วิ่งถอยออกมา เพื่อเปิดแนวยิง ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุอื่นๆ หนีได้หมด มีเพียงคนที่ยิง และถูกรุมทำร้าย

“ส่วนเรื่องสื่อมวลชนที่โดยผลักอกนั้น ผมต้องขอโทษแทนกลุ่มการ์ดด้วย เพราะสั่งให้เปิดวง เพื่อนำคนเจ็บออกมา เป็นความผิดพลาดที่ดันสื่อออกไป อาจเกิดจากอารมณ์ที่เราต้องการคุมมวลชนที่กำลังโมโห และคนที่ผลักอาจไม่เห็นบัตรสื่อ เพราะพื้นที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด จึงอาจเกิดจากความเข้าใจผิดกัน”

สำหรับกรณีตำรวจออกมาชี้แจงว่า เป็นการทะเลาะกันเองระหว่างนักเรียนอาชีวะนั้น มองว่าไม่ถูกต้อง ตำรวจควรสืบสวนให้ชัดเจนก่อนจะให้ข่าวกับสื่อ เรามีความชัดเจนว่าสถาบันไหนเข้ามาบ้าง ไม่เข้าใจว่าตำรวจรวบรวมข้อมูลได้ละเอียดแล้วหรือไม่

หากเป็นนักเรียนอาชีวะจริงและมีเรื่องส่วนตัวกัน เมื่อพบกันในงานก็ต้องทะเลาะกันแล้ว แต่กลับเป็นการรอให้คนบางตาก่อนจะก่อเหตุ หากเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่มีการวางแผนเป็นขั้นตอนเช่นนี้

เหตุผลที่ต้องกันคนออกไปนั้น เพราะมีคนเหยียบปืนที่ตกบนพื้นข้างคนยิง จึงเกรงจะทำให้ปืนลั่น ยืนยันที่ผ่านมา ได้ยุติความขัดแย้งระหว่างสถาบันอาชีวะด้วยกัน เพื่อมาดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม โดยไม่ใช้ความรุนแรง เน้นสันติวิธี และการเจรจาเป็นหลัก โดยประสานงานกับตำรวจตลอดเวลา ยืนยันไม่มีการซื้อตัวการ์ดมวลชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล เพราะทุกคนมาด้วยใจ

การ์ดอาชีวะ

 

‘กลุ่มอาชีวะ’ แจงเหตุความรุนแรง #ม็อบ25พฤศจิกา

ก่อนหน้านี้ เพจ ฟันเฟืองธนบุรี – Gear Of Red Thonburi โพสต์แถลงการณ์ เรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ณ พหลโยธิน โดยระบุว่า

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ในคืนของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 หลังจากการชุมนุมได้ถูกยุติลง ทางกลุ่มฟันเฟืองทุกที่และกลุ่มอาชีวะกลุ่มอื่น กำลังรวมตัวเพื่อที่จะกลับที่พัก ได้มีเหตุความรุนแรงจากบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่ก่อเหตุสร้างความรุนแรง โดยใช้อาวุธร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุให้เพื่อนเราหลายท่านได้รับบาดเจ็บ และหนึ่งในเพื่อนฟันเฟืองประชาธิปไตยได้ถูกยิง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน จากคมกระสุนปืนจากผู้สร้างสถานการณ์

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีความชัดเจนจากหลักฐานว่า มีกลุ่มคนจากฝ่ายที่ต้องการใช้ความรุนแรง กับกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยได้แฝงตัวเข้ามา ในกลุ่มอาชีวะกลุ่มหนึ่ง เพื่อก่อความไม่สงบ สร้างบรรยากาศความไม่ปลอดภัยแก่ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ

ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย มีเพียงมือเปล่า ไม่มีอาวุธร้ายแรงใด ถูกกระทำอย่างโหดร้ายอุกอาจ แต่เราฟันเฟืองประชาธิปไตย จะยืนหยัดในการต่อสู้ อย่างสันติปราศจากอาวุธต่อไป และขอให้ผู้ที่สร้างสถานการณ์หรือมีส่วนรู้เห็นออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมิได้ลดทอนความเป็นเพื่อนร่วมเส้นทางประชาธิปไตยหากแต่ยังสร้างให้เรามีความเหนียวแน่นกันมากยิ่งขึ้น และเราจะดำเนินการไปด้วยกันเพื่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับความเป็นธรรม ทั้งทางกฎหมายและภาคสังคม

“เราจะไม่ยินยอมให้ความรุนแรงทำร้ายเรา เราจะสู้กับความรุนแรงด้วยสันติวิธี”

การ์ดอาชีวะ

‘บิ๊กตู่’ ลั่นเลิกโยนผิดให้รัฐบาล

ก่อนหน้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มราษฏร ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ วานนี้ (25 พ.ย.) ว่า ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากเป็นการชุมนุมที่ถูกกฎหมายก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่ต้องเป็นการชุมนุมที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตามต้องเคารพกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนไม่ว่าจะกี่พวกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพวกไหนก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน

“สำหรับเหตุการณ์ยิงกันหลังการชุมนุม ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ผมกำลังให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามอยู่ เห็นว่ามีภาพถ่ายมีอะไรตลอด สื่อก็ได้บันทึกไว้ ก็จะได้พิสูจน์ได้ว่าใครทำกันแน่ ไม่อย่างนั้นก็โยนกันไปโยนกันมาว่า อีกพวกหนึ่งทำ ว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีแต่ทำหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เข้าใจหรือไม่ การชุมนุมจะต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย ถ้าคนไปร่วมชุมนุมถ้าไปแล้วไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่ไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการลดความขัดแย้งตรงนี้ควรจะดำเนินการแก้ไขและธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งประธานสภาดูแลอยู่แล้วในเรื่องนี้ รัฐบาลจะไม่ก้าวล่วง เพราะเราเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งการแก้ไขตรงโน้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน อะไรก็แล้วแต่ เราไม่มีส่วนร่วมตรงนั้น อย่าเอาปัญหานี้ไปใส่ปัญหานั้น เราเป็นฝ่ายบริหาร ตรงนั้นเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเราเพียงอำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขเท่านั้นก็จบแล้ว สั่งใครได้ที่ไหนล่ะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี ได้ประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อจะส่งผลกระทบมากแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยากฝากคนทั้งประเทศให้กังวลด้วยแล้วกัน เพราะตนกังวลอยู่แล้ว ยิ่งชุมนุมนานไปก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ยิ่งนานไปการจราจรก็ติดขัดมากขึ้น

“ขอถามหน่อยว่า ได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือ ที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิด ตนว่ามันควรตรงนั้นมากกว่า สื่อช่วยกันพูดหน่อย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo