Politics

‘อนุทิน’ ย้ำสธ.ชงกัญชาเป็นยาเสพติด ต้องเอาข้อมูลมาหักล้างกัน มั่นใจไม่กระทบฐานเสียงภูมิใจไทย

“อนุทิน” ย้ำสธ.ชงกัญชาเป็นยาเสพติด ต้องเอาข้อมูลมาหักล้างกัน มั่นใจไม่กระทบฐานเสียงภูมิใจไทย เพราะทำตามสัญญาทุกอย่าง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุข เตรียมนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า กระทรวงสาธารณสุขต้องไปหาข้อมูลมา

เพราะที่ผ่านมาการประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด หรือพ้นจากการยาเสพติด เป็นการประกาศโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) ชุดใหญ่ แต่ก่อนจะมาถึงตรงนั้นก็มีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานอยู่

อนุทิน

ต้องโหวตและนำข้อมูลมาหักล้างกัน

ตอนที่ปลดกัญชาก็มีความชัดเจนว่าเหตุใดถึงปลดได้ แต่ปัญหาคือกฎหมายไม่มี เราเคยเสนอกฎหมายเข้าไป ผ่านวาระแรกแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ไม่ผ่านวาระสอง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องเหตุผล

ดังนั้น เราต้องยืนยันเจตนารมณ์ต่อไปว่า มันพิสูจน์ได้โดยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ความรู้สึก และนโยบายต่างๆ ต้องมีข้อมูลมาสนับสนุน ส่วนจะพิจารณาและมีมติออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าต้องมีการเยียวยาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนที่เราประกาศให้กัญชาออกจากยาเสพติด นักโทษ 6-7 พันคนได้รับการปล่อยตัวทันที บางทีเขารักษาตัว บางทีพวกเขาเป็นแพทย์ประจำบ้าน แพทย์แผนโบราณ ถูกตัดสินจำคุก เขาก็ได้รับการปล่อยตัว

อนุทิน

ถ้าวันนี้มีข้อมูลใหม่มาว่ากัญชาอันตรายก็ต้องเป็นยาเสพติดแน่นอน ถ้ามีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตนต้องรับฟังและพิจารณา แต่ปัจจุบันเราต้องรอข้อมูลก่อน วันนี้ที่ยังปลูก 6 ต้นได้ หรือพวกที่เอามาทำเป็นสินค้า แค่จดแจ้งหรือทำรายงานว่าเขาจะเอาไปขาย วันนี้เราจะทำอย่างไรถ้าเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะต้องมีบทเฉพาะกาลคุ้มครองคนเหล่านี้หรือไม่ ต้องดูทุกอย่าง

แต่เรื่องนี้ก็ต้องมาคุยกัน มาโหวตในที่ประชุม ผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ เราก็ให้ข้อมูลในส่วนของเรา ถ้าใครมีข้อมูลที่ดีกว่าก็นำมาหักล้างกัน

อนุทิน

ไม่กระทบฐานเสียงเพราะทำตามสัญญาเต็มที่

ส่วนที่ว่าโครงการนี้เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย จะมีปัญหาหรือไม่ เราเดินหน้าทำตามนโยบายที่สัญญาไว้ทุกอย่าง ปลดกัญชาจากยาเสพติดเรียบร้อย แต่รัฐบาลชุดนี้เราไม่ได้กำกักบดูแลกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องให้ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดนโยบาย

ส่วนที่ว่าจะกระทบฐานเสียงของพรรคหรือไม่ ตอนที่เราดูแลกระทรวงสาธารณสุขเราก็ทำทุกอย่าง และยังกฎหมายเข้าสภาผู้แทนราษฏรเพื่อพิจารณา แต่เราถูกหักหลังไม่ผ่านกฎหมาย คนที่รับโทษก็คือประชาชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo