Politics

‘โรม’ สงสัยราชทัณฑ์บอก ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ป่วยหนัก แต่ทำไมใส่แค่เฝือก-ที่ดามคอ

“โรม” สงสัยราชทัณฑ์บอก “ทักษิณ ชินวัตร” ป่วยหนัก แต่ทำไมใส่แค่เฝือก-ที่ดามคอ ชี้ภาพเหล่านี้ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใส

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าทันทีว่า สังคมรับรู้มาโดยตลอด ผ่านการชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์ และรัฐบาลว่านายทักษิณป่วยหนักมาก ซึ่งเป็นระดับที่เรือนจำ หรือโรงพยาบาลในเรือนจำไม่สามารถให้การดูแลได้ เลยต้องไปใช้โรงพยาบาลตำรวจ

ทักษิณ ชินวัตร

“ผมต้องบอกว่า ปัญหาที่ไปรักษาตัวข้างนอก กับการใช้โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ถ้าใครติดตามปัญหานักโทษคนอื่น ๆ จะพบว่ามีน้อยมาก ที่จะได้รับการรักษาตัวข้างนอก คนสุดท้ายที่เรานึกถึงก็จะเป็นอาก๋งที่สุดท้ายต้องเสียชีวิต ต้องบอกว่ามีอาการร้ายแรงในเรือนจำ และไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนกับนายทักษิณ ถ้าเรามองในกรณีนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว

ขณะที่สุดท้ายการที่นายทักษิณมีภาพแค่เพียงใส่เฝือก มีภาพแค่เพียงเหมือนกับคอซ้น ภาพเหล่านี้ที่ออกมา มันทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของการรักษาตัวของนายทักษิณ ซึ่งความสงสัยแบบนี้ มันทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลายความน่าเชื่อถือของเรือนจำ ของกระบวนการยุติธรรม

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ถ้านายทักษิณสามารถทำแบบนี้ได้ ต่อไปก็จะมีคนขอในลักษณะแบบนี้ ไม่ต้องติดคุกแม้แต่นาทีเดียวเพื่อที่จะไปอยู่ข้างนอก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการไปอยู่ข้างนอกจะมีการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง เพิ่มเติมอีกหรือไม่ หลายคนไม่ได้ตั้งข้อสังเกตแค่การใส่เฝือกหรือดามคอเท่านั้น หลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า มีการดูแลปรนนิบัติเป็นอย่างดี แม้กระทั่งการตัดผม ทำให้คนในสังคมเกิดความรู้สึกว่า การที่นายทักษิณไปรักษาตัว เอาเข้าจริงกลายเป็นสิทธิพิเศษ สิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้กัน กระบวนการยุติธรรมก็ถูกทำลายลง

ทักษิณ ชินวัตร

“ผมเข้าใจว่าในอดีตมีแง่มุมหลายอย่างที่นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกระบวนการยุติธรรม แต่การใช้วิธีการเพื่อสร้างอภิสิทธิ์บางอย่างให้กับตัวเอง มันไม่ใช่การพิสูจน์ และยิ่งทำลายกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งทำให้วันข้างหน้า สังคมอาจจะตั้งคำถามได้ว่า ตกลงประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีกี่คน ซึ่งคงต้องดูต่อไป ว่าหลังจากกลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว อาจจะฟื้นตัวเร็วขึ้น จนสามารถทำหน้าที่บทบาททางการเมืองได้หรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีแนวทางที่จะให้ความแตกต่าง และติดตามเรื่องนี้อย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า โดยจุดยืนส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับการบังคับตัดผม แต่ทุกคนควรได้รับความเป็นธรรมเสมอกัน วันนี้เราก็ไม่ได้เห็นข้อมูลเรือนจำว่า มีนักโทษได้สิทธิ์เหมือนนายทักษิณอย่างไร ทำให้เกิดความกังวลว่าสุดท้ายระเบียบเรือนจำ ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ผมเข้าไปในเรือนจำก็เคยเห็น และพรรคก้าวไกลก็เดินหน้าในการตรวจสอบ แต่ก็ยอมรับว่าการแสวงหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็จะพยายามให้ได้มากที่สุด ให้ได้ข้อมูลว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ ผมคิดว่าต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับคนอื่น ที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK