ประธาน กกต. แจงคดียุบ “ก้าวไกล” ทำตามกฏหมาย ไม่สนว่าเป็นชื่อพรรคไหน เผยยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจน แต่จะไม่ชักช้า
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของกกต.อาจจะเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากกรณียุบพรรคการเมือง ว่า กกต.ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่ตนก็ไม่สามารถห้ามใครคิดแบบนั้นได้ กฎหมายพูดเสมอว่าให้กกต.มีหน้าที่อะไรบ้าง ถ้าบทบาทเป็นอย่างไรกกต.ก็ต้องทำ คงไม่ได้เป็นเครื่องมืออะไร
เมื่อถามว่า สังคมมองว่าที่ผ่านมา กกต.จะมักจะยื่นยุบพรรคที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล โดยครั้งนี้ก็คือพรรคก้าวไกล ซึ่งเพิ่งจะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องใช้การแก้ไขมาตรา 112 ในการหาเสียงของพรรค นายอิทธิพร กล่าวว่า การยุบพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงปรากฏ เราไม่ได้ดูชื่อพรรค ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าพรรคการเมืองใด ทำอะไรอย่างไร แล้วเรื่องมาถึงอำนาจหน้าที่ของกกต. เราก็ทำตามนั้น ที่ผ่านมาเราพยายามทำตามกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงานโดยแท้
ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ออกมา แล้ว กกต.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอิทธิพร กล่าวว่า นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ที่ทราบกันทั่วไป แต่เนื่องจากศาลวินิจฉัยวันที่ 31 ม.ค. ต่อมาวันที่ 1-2 ก.พ. มีคนมายื่นร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ส่งเรื่องยุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 6 ก.พ. สำนักงานกกต.เสนอเรื่องตามกระบวนการการทำงานปกติให้กกต.ทราบว่า มีเรื่องนี้ กกต.ก็ขอให้สำนักงานและนายทะเบียนพรรคการเมือง ไปศึกษาคำวินิจฉัยศาลเท่าที่มีอยู่ในวันอ่าน และศึกษาว่าตามพ.ร.ป.พรรคการเมืองจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ตามอำนาจหน้าที่ที่มี และวันที่ 13 ก.พ. ก็มีการเสนอเรื่องมาว่า อยู่ระหว่างการศึกษา
อย่างไรก็ตามเพื่อความรอบคอบ เพื่อความเป็นธรรม และชัดเจน อาจจะให้ศึกษาคำวินิจฉัยกลาง ซึ่งตามแนวทางการทำงานทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาภายใน 2 สัปดาห์ คาดว่าจะเป็นภายในวันนี้ สัปดาห์นี้ แต่ไม่ช้าไปกว่านี้แน่ เมื่อกกต.มีข้อมูล เอกสารครบถ้วน ก็จะวินิจฉัยตามนั้น ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาคำวินิจฉัยของศาล หลักฐานและดูว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เขียนชัดในตามมาตรา 92 และ 93
เมื่อถามว่า หากยื่นยุบพรรคตามกฎหมาย ต้องอิงตั้งแต่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่าที่เคยเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดขนาดนั้น เพราะยังมีกระบวนการทำงาน 1.ศึกษาคำวินิจฉัยให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน 2. สำนักงาน กกต. มีความเห็นเป็นอย่างไร จะเสนอกกต.ใช้อำนาจหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ไม่มีกรอบเวลาชัดเจน แต่เรื่องนี้ต้องทำโดยไม่ชักช้า เพราะมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว แต่กระบวนการทำงานหากทำละเอียด ครบถ้วนได้ก็จะเป็นประโยชน์
เมื่อถามว่า เมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลแล้ว ยังต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูล ชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า อาจจะมีกระบวนการภายใต้กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่นานทะเบียนพรรคการเมืองตั้ง ขณะนี้เราทำคู่ขนานกันไประหว่างสำนักงานเสนอความเห็นว่า เรื่องนี้มีหลักฐานอันควรเชื่อแล้วหรือยัง ซึ่งก็ต้องไปดูว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร ก็ทำพร้อมๆ กัน เพราะฉะนั้น ถ้าจะเรียกก็อาจเรียกในกรอบของคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไพศาล’ ลั่น ‘ยุบพรรค’ ทำ ‘นิติรัฐ’ ย่อยยับ แถมหยุดพรรคที่โดนยุบไม่ได้
- ‘เศรษฐา’ ย้ำ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ
- ดิจิทัลวอลเล็ตไม่คืบ!! ‘เศรษฐา’ ลั่นขอช้าแต่ชัวร์ ไม่ชัดขยับไทม์ไลน์หรือไม่
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx