Politics

‘พิธา’ ลุกขึ้นอภิปรายกลางสภาครั้งแรก บอกผมกลับมาแล้วครับท่านประธาน!

“พิธา” ลุกขึ้นอภิปรายกลางสภาครั้งแรก บอกผมกลับมาแล้วครับท่านประธาน! ลุยฟาดงบประมาณแก้ขยะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมวันนี้ (26 ธ.ค.) โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องการบริการจัดการขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า ผมกลับมาแล้วครับท่านประธาน อาจจะเป็นเวลานานถึง 6 เดือนที่ไม่ได้มีโอกาสอภิปราย ปัญหาของพี่น้องประชาชนในสภาแห่งนี้ จนกระทั่งบัตรเสียบก็ยังไม่ได้ทำ แต่โชคดีที่ยังมีบัตรสำรอง ให้มีโอกาสได้มาพูดถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ตนได้ลงไปในช่วงที่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.

พิธา

ญัตติการบริหารจัดการขยะชุมชนขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และพื้นที่เมืองท่องเที่ยว ซึ่ง 2 สถานที่ที่ตนได้มีโอกาสลงไปในพื้นที่ คือบ่อขยะ ตำบลแพรกษาใหม่ จังหวัดสมุทรปราการ และบ่อขยะเทศบาลนคร จังหวัดภูเก็ตทั้ง 2 ที่มีความแตกต่างกันจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่จังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยว

ผมขอสรุปผลกระทบและงบประมาณการจัดการขยะของจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีกองขยะสูงถึง 5-10 ชั้น ซึ่งมีผลกระทบที่เกิดขึ้น มีขยะรายวัน 2,830 ตัน/วัน สามารถจัดการขยะได้อย่างถูกต้องตามสุขลักษณะ 300 ตัน/วัน แต่มีขยะที่ถูกจัดการไม่ถูกต้อง 2,530 ตัน/วัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพต่อพี่น้องสมุทรปราการ เพราะข้างๆ บ่อขยะเป็นโรงเรียนเด็กเล็ก และเสี่ยงที่จะเกิดอัคคีภัย แต่จีดีพีมีจำนวน 660,865 ล้านบาท งบประมาณที่อปท.ได้ 49 แห่ง อยู่ที่ 1,654 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.25% ของจีดีพี

พิธา

ขณะที่ จังหวัดภูเก็ต มีกองขยะที่อยู่ข้างทะเล เป็นขยะติดเชื้อหรือขยะอันตราย หากสักวันมันลงไปในทะเล แล้วฝรั่งก็จะเรียกภูเก็ตว่าเป็น garbage paradise สรวงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยขยะโดยสถานการณ์ปริมาณขยะ 861 ตัน/วัน ความสามารถในการเผาขยะอยู่ที่ 700 ตัน/วัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวชัดเจน จีดีพีจำนวน 202,555 ล้านบาท งบประมาณของ อปท. 10 กว่าแห่ง รวม 633 ล้านบาท คิดเป็น 0.31% นี่คือภาพจุลภาคในท้องถิ่น ที่ทำให้ตนกลับมา และสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษว่าถ้าเป็นในระดับชาติและมีการตั้งกรรมการวิสามัญเกิดขึ้น ควรที่จะจับประเด็นในระดับประเทศอย่างไร

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภาพรวมของขยะในประเทศไทยน่าเป็นห่วงทุกระดับ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไม่สามารถลดขยะตั้งแต่ต้นทางที่มีถึง 63 ล้านตัน ได้ ก็ไม่สามารถดำเนินการในระยะกลางทางและปลายทางได้เลย ซ้ำยังเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทั้งนี้ ตนขอสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง

พิธา

โดยขอเสนอ 5 ข้อเสนอ แบ่งเป็น ในระดับต้นทาง

  1. ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะที่ทำหน้าที่รับผิดชอบ
  2. ออกพระราชบัญญัติการบริหารจัดการขยะและการหมุนเวียนทรัพยากร ครอบคลุมการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต ส่วนระดับกลางทาง
  3. โอนอำนาจให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดการขยะตามความต้องการเช่น ซื้อรถเก็บขยะ ขณะที่ระดับปลายทาง
  4. เพิ่มเติมงบสำหรับการดำเนินการบริหารจัดการขยะ
  5. ออกมาตรการด้านกองทุนฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนและสำหรับผู้รับบำบัดกำจัดขยะ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK