“จตุพร” เชื่อ “กฤษฎีกา” ส่งคำตอบบอกปัดอย่างสุภาพ ห้ามกู้เงินแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ดับฝันเงิน 10,000 บาท ชี้รัฐบาลไม่มีความมั่นใจในโครงการแจกเงินดิจิทัล ถ้ามั่นใจต้องออกเป็น พ.ร.ก.ไปแล้ว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 8 มกราคม 67 กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง บอกคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งความเห็นการกู้เงิน 5 แสนล้านมาแจกประชาชนคนละ 1 หมื่นบาทตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่าตนเชื่อว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งคำตอบมาปฏิเสธอย่างสุภาพ โดยมีความเห็นว่ารัฐบาลกู้เงินได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ม. 53 และ ม.57 ซึ่งเท่ากับบอกรัฐบาลจะทำตามใจตัวเองต้องการจะทำไม่ได้
อย่างไรก็ตาม คำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ส่งให้กระทรวงการคลัง จึงสอดคล้องกับความเห็นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ให้การสนับสนุนกู้เงินมาแจกโครงการดิจิทัล 5 แสนล้านบาท แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
“คำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีการแสดงว่ารัฐบาลไม่สามารถกู้เงินมาแจกตามโครงการดิจิทัลได้เลย เพราะการให้ทำตามกฎหมาย แต่กฎหมายกำหนดข้อห้ามเอาไว้ และการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อไทยยังเข้าข้อห้ามของกฎหมายทุกข้อด้วย ดังนั้นคำตอบให้กู้เงินทำได้ตามกฎหมาย จึงยากที่จะกู้เงินได้ หรือเป็นการบอกอย่างสุภาพว่า ไม่ให้กู้นั่นเอง” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า กฎหมายให้รัฐบาลกู้เงินได้ในสถานการณ์ประเทศวิกฤตและเร่งด่วน เมื่อนายกฯ ตระเวนชวนนักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในไทย โดยยืนยันเป็นประเทศไม่มีวิกฤต ดังนั้นการจะกู้เงินมาแจกในช่วงบ้านเมืองวิกฤต จึงต้องแลกด้วยไม่มีนักลงทุนมาลงทุนในไทยที่เป็นประเทศวิกฤตด้วย การพยายามทั้งหมดของรัฐบาลเพื่อไทยนั้น เป็นสิ่งผิดปกติ เพราะการเร่งอธิบายจะให้คณะกรรมการกฤษฎีกามาพูดให้ชัดในที่ประชุม ครม. แต่รัฐบาลและนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กลับพูดดักไว้ล่วงหน้าว่าทำได้แล้ว ดังนั้นถ้าทำไม่ได้ จึงเป็นปัญหาในอนาคต
“ตามปกติแล้วรัฐบาลจะกู้เงิน ไม่ไปถามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีแบบประกาศทางสาธารณะเช่นนี้ โดยจะเรียกมาขอความเห็นลับๆ หรือออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินเพื่อให้มีผลสมบูรณ์โดยเร็ว ที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีความมั่นใจในโครงการแจกเงินดิจิทัล ถ้ามั่นใจต้องออกเป็น พ.ร.ก.ไปแล้ว ดังนั้นคนเป็นนักบริหาร ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนจะกู้เงินโดยออก พ.ร.บ.ไม่ได้ สิ่งสำคัญถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าทำได้ แล้วทำไมไม่ทำเลย จะออกเป็น พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.ก็ตาม แต่จะถูกยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบอยู่ดี” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า นายกฯ มักนิยมบริหารประเทศผ่านการโพสต์ข้อความ โดยล่าสุดต่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยสวนทางเงินเฟ้อติดลบ ซึ่งเป็นการบริหารงานที่ไม่เหมาะสม และไม่ใช่วิธีการบริหารราชการของคนเป็นนายกฯ ปัญหามีว่าอยากจะปลดผู้ว่า ธปท.ใช่หรือไม่ ก็ปลดเลยสิ แต่มันมีที่ไหนที่การบริหารราชการด้วยข้อความผ่านเอ็กซ์ ที่ไม่เห็นด้วยกับหน่วยงานราชการ แทนที่นายกฯ จะใช้ความเป็นผู้นำที่มีวุฒิภาวะด้วยการแลกเปลี่ยนเหตุผลที่ก่อเกิดปัญหา ซึ่งธนาคารชาติก็จะมีเหตุผลให้ในมิติใด สิ่งสำคัญที่สุดวิธีการทวิตข้อความผ่านเอ็กซ์ยังไม่เข็ดกับการแสดงความเห็นกรณีอิสราเอลกับฮามาสอีกเหรอ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เฮ! พรุ่งนี้เงินเข้า งวดแรกปี 67 ‘เงินอุดหนุนบุตร-เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ-เบี้ยผู้พิการ’ พร้อมเช็กปฏิทินเงินเข้าทั้งปีที่นี่!
- คู่รักซุป’ตาร์ หล่อสวยใจบุญ บริจาคเงิน 150 ล้านวอน เพื่อสนับสนุนค่ารักษาเด็กและวัยรุ่น
- สนค. วิเคราะห์ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ บริการภาครัฐไม่ขยับ กระทบเงินเฟ้อน้อย
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg