Politics

‘สส.ก้าวไกล’ ขยี้งบกลาโหม 1.98 แสนล้าน เย้ย ‘สุทิน’ ลอกการบ้าน ‘บิ๊กตู่’

สส.ก้าวไกล” ขยี้งบกลาโหม 1.98 แสนล้าน เย้ยสุทิน” ลอกการบ้านบิ๊กตู่” แฉหนัก “ทหารเกณฑ์” ถูกยึดบัตร ATM ตั้งรหัสผ่านเดียวกันยกค่าย

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก วันที่ 2

กลมโหม

โดยนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงงบประมาณกระทรวงกลาโหมว่า ในช่วงแรกที่ตนทราบว่านายสุทิน คลังแสง เป็นรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นพลเรือนคนแรกในประวัติศาสตร์ ตนดีใจมากเพราะว่าเป็นพลเรือนที่มาคุมทหารไม่ใช่นายกฯ ที่มานั่งควบตำแหน่งเหมือนในอดีต ตนฝากความหวังว่านายสุทินจะสร้างการเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนกองทัพได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้นโยบายของพรรคเพื่อไทยบอกว่าจะปฏิรูปกองทัพให้เป็นทหารมืออาชีพ แก้ไขกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหารให้เข้ารับราชการในกองทัพด้วยความสมัครใจ และเสนอกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร โดยนายกฯ แถลงนโยบายเองว่าจะเปลี่ยนทหารเกณฑ์เป็นแบบสมัครใจ และลดกำลังพลนายทหารสัญญาบัตรระดับสูง และอัตรากอ.รมน.ให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ในปัจจุบัน และนำพื้นที่ทหารที่เกินความจำเป็นมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์

นายเอกราช กล่าวว่า แต่วันนี้ที่ตนเห็นแผนร่างการจัดสรรงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม ตนตั้งคำถามว่าคนไทยจะฝันเห็นกลาโหมและกองทัพโฉมใหม่ที่ดูดีทันสมัยได้หรือไม่ กระทรวงกลาโหมขอรับการจัดสรรงบประมาณเกือบ 1.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า  3,800 ล้านบาท โดยงบประมาณรายจ่ายบุคลากรภาครัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยปี 67 เพิ่มขึ้น 1,725 ล้านบาท เป็นภาพสะท้อนว่ากระทรวงกลาโหมกำลังขยายขนาดหรือไม่ สวนทางกับแผนลดกำลังพล เมื่อดูแผนประมาณการรายจ่ายล่วงหน้ารายจ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี สวนทางกับนโยบายลดกำลังพลที่นายกฯ แถลงต่อสภาโดยสิ้นเชิง และนายสุทินต้องอธิบายเรื่องนี้ว่าทำไมจัดสรรงบประมาณไม่สมเหตุสมผลและย้อนแยงกับนโยบายที่นายกฯ แถลงไว้

งบกลาโหม

นายเอกราช กล่าวว่า  เมื่อเจาะดูรายจ่ายงบประมาณของกลาโหมส่วนใหญ่หมดไปกับรายจ่ายบุคลากรภาครัฐร้อยละ 55 โดยเฉพาะกองทัพบกใช้งบประมาณถึงร้อยละ 64 ของงบประมาณกองทัพบก ในขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ร้อยละ 30 เท่านั้น เมื่อดูละเอียดเข้าไปอีกงบบุคลากรยังซ่อนรูปในงบรายจ่ายอื่นที่ใช้กับทหารกองประจำการทั้งค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาภรณ์เครื่องแต่งกาย และค่าใช้จ่ายในการเรียกเกณฑ์และปลดกำลังพล และเมื่อรวมค่าตอบแทนทหารประจำการค่าตอบแทนจะสูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.8 ของบุคลากรทั้งหมดของกระทรวงกลาโหม

ปูดทหารเกณฑ์ถูกยึดบัตรเอทีเอ็ม ตั้งรหัสผ่านเดียวกันยกค่าย

นายเอกราช กล่าวต่อว่า อีกเรื่องคือทหารที่เขาสมัครใจเข้ามาเขาอยากเป็นทหารที่ไปยึดสมรภูมิ แต่ตอนนี้เขาถูกยึดบัตรเอทีเอ็ม มีการสอบสวนข้อเท็จจริงใน กมธ.ทหาร ที่ค่ายในพื้นที่ จ.นครพนม มีทหารมาร้องเรียนว่านายพัน นายพล เก็บบัตรเอทีเอ็มของทหารเกณฑ์ไว้ เขาจำใจต้องยอมให้เก็บเพราะเขาไม่อยากมาเฝ้าแต่หญ้าฆ่าแต่มดอยู่ในค่าย แถมตั้งรหัสเอทีเอ็ม 1111 เหมือนกันหมด นายสุทินทราบเรื่องหรือไม่ ท่านต้องเข้มงวดและให้ความสำคัญ แล้วแบบนี้ใครจะอยากมาเป็นทหารแบบสมัครใจ เขาอยากมายึดสมรภูมิไม่ใช่มาถูกยึดบัตรเอทีเอ็ม ถูกหักหัวคิวค่าเบี้ยเลี้ยง

ภาพถ่ายหน้าจอ 2567 01 04 เวลา 15.58.46

นายเอกราช กล่าวอีกว่า ข้อสังเกตอีกประการคือในเล่มงบประมาณส่วนบุคลากรกองทัพ ควรเปลี่ยนเคพีไอและชี้ให้ชัดว่าจำนวนทหารกองประจำการต้องการจำนวนเท่าไรกันแน่ และมีคนสมัครจริงเท่าไร และต้องเกณฑ์เท่าไร นายสุทินในฐานะผู้บริหารกระทรวง ถ้าท่านไม่ตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัดแล้วท่านจะวัดผลการทำงานได้อย่างไร 4 ปีข้างหน้าที่เป็นรัฐบาลสรุปแล้วเยาวชนที่เขารออยู่เขาจะได้ยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหารหรือไม่ นายสุทินต้องมีนโยบายที่นำไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่ปล่อยให้กองทัพจัดการกันเอง เสนอมาเท่าไรท่านก็เซย์เยส อย่าให้รัฐมนตรีเป็นแค่ตรายาง เช่น ทหารเกณฑ์ในช่วงโควิดที่ผ่านมากองทัพก็สามารถลดทหารกองประจำการและงบประมาณลงไปได้ แต่พอกลับมาช่วงนี้ทหารเกณฑ์ยังคงใช้อัตราใกล้เคียงแบบเดิมลดไปเล็กน้อยเท่านั้น สรุปยังเป็นนโยบายเรือธงหรือไม่อยากให้ช่วยตอบแบบเป็นวิทยาศาสตร์ว่าเราต้องใช้ทหารกองประจำการเท่าไร ทหารมืออาชีพเท่าไร และจำเป็นต้องมีนายพลจำนวนเท่าไรกันแน่

สงสัยงบลับ ‘กอ.รมน.’ ยกเลิกไป แต่งบลับ ‘กลาโหม’ เบิกจ่ายรวดเร็ว ครบถ้วน 100 %

นายเอกราช กล่าวว่า ทั้งนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังเสนอว่าจะมีกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร แต่ก็ยังไม่เห็นสักข้อ ส่วนงบอีกตัวหนึ่งที่ตนติดใจคืองบลับ ตนอยากถามนายกฯ ว่างบลับของกอ.รมน.ยกเลิกไปได้อย่างไร ช่วยกระซิบบอกนายสุทินหน่อย ตนเข้าใจว่าดีว่างบลับมีกฎหมายที่สภาไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แต่มี สตง.ที่เข้าไปดูได้ว่าถูกใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ แต่อดสงสัยและเคลือบแคลงใจไม่ได้ว่าทำไมงบลับของกระทรวงกลาโหมต้องเท่ากันทุกปี และการเบิกจ่ายรวดเร็ว ครบถ้วน 100 % ไม่รู้จะพิจารณาความคุ้มค่าแบบไหน และสส.พรรคเดียวกับนายสุทินในสมัยครั้งที่แล้วอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์งบลับอย่างดุเดือด จึงเสนอนายกฯ ช่วยกระซิบนายสุทินว่าจะทำอย่างไร

ภาพถ่ายหน้าจอ 2567 01 04 เวลา 16.01.38

ส่วนของ กอ.รมน.ลดไปได้ประมาณ 10 ล้านบาท สำนักนายกฯ ลดได้ประมาณ 5 ล้านบาท รวมเป็น 15 ล้านบาท กลาโหมก็จะได้ลดงบลับลงไปบ้าง สุดท้ายถ้าท่านจะปรารถนาจะปฏิรูปกองทัพด้วยงบลับสานสัมพันธ์กับทหาร 469 เกือบ 500 ล้านบาท ที่มีบรรทัดเดียว อิ่มกันถ้วนหน้าหรือไม่ อย่างไรก็ตามระเบียบของ สตง.มีกฎหมายปิดปาก เขียนล็อกเอาไว้ว่าผู้ใดเปิดเผยข้อมูลจากการตรวจสอบเงินราชการลับผิดวินัยร้ายแรงต้องรับโทษตามกฎหมายและผิดจริยธรรมด้วย ตนไม่มั่นใจว่าภายใต้อำนาจทางการเมืองที่ทหารมีขนาดนี้ สตง.จะต้องเจออะไรบ้าง ตนจึงยืนยันว่างบลับคือช่องทางให้งาบอย่างลับๆ ของนายทหารผู้มีอำนาจหรือไม่

นายเอกราช กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการนี้แม้ไม่ได้เริ่มในยุคนายสุทิน แต่ยาวมาถึงรัฐบาลนี้  กองทัพเรือมีโครงการภายใต้แผนบูรณาการเขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 เรียกง่ายๆ ว่าการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดย 2,450 ล้านเป็นงบประมาณแผ่นดิน แล้วเขาจะไปกู้เงินจากต่างประเทศอีกกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท สิ่งที่ตนสงสัยคือเราอยู่ในยุคที่กองทัพเรือไปกู้เงินจากต่างประเทศมาเพื่อสร้างรันเวย์สนามบินพาณิชย์ได้อย่างไร มันเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)ชัดๆ เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง

“พรรคก้าวไกลเคยถามกองทัพเรือใน กมธ.งบประมาณปีก่อนๆ ว่าทำไมต้องมารับผิดชอบในการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์ กองทัพเรือตอบอย่างเข้มแข็งว่าสนามบินอู่ตะเภาเป็นพื้นที่ๆ อยู่บนที่ดินที่กองทัพเรือครอบครอง แบบนี้ได้หรือไม่ อู่ตะเภา ไม่ใช่หนูตะเภา ที่จะมาเป็นของเล่นของทดลองให้กองทัพเรือ และที่ราชพัสดุเป็นของแผ่นดินไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง สรุปจะอ้างสิทธิ์ในที่ดินแล้วเปิดซองประมูลคัดเลือกผู้รับเหมา แบบนี้หวังเงินทอนหรือไม่ ซึ่ง สกพอ.พยายามเจรจาเพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการนี้ แต่กองทัพเรือมีหรือจะยอม อ้อยเข้าปากช้างแล้ว” นายเอกราช กล่าว

ส่อมีเงินทอนโครงการสร้างรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา?

ทั้งนี้ตนเข้าไปตรวจสอบจากหน้าเว็บไซต์ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย(AIIB) สรุปสถานการณ์ยื่นคำขอกู้ 431 ล้านยูเอสดอลลาร์ เพื่อมาดำเนินโครงการ สถานะล่าสุดคือยังไม่อนุมัติ ในขณะที่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ขอกู้ผ่าน AIIB เหมือนกันในโครงการระดับ 500-1,000 ล้านบาทใช้เวลาอนุมัติเพียง 2-5 เดือนเท่านั้น แต่ประเทศไทยล่วงเลยมา 24 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับอนุมัติเลย ซึ่งสาเหตุที่ยังไม่ได้รับอนุมัติเพราะว่ากองทัพเรือปฏิเสธที่จะทำตามคำแนะนำของธนาคาร AIIB

ภาพถ่ายหน้าจอ 2567 01 04 เวลา 16.02.37

นอกจาก AIIB ไม่อนุมัติแล้วจากเดิมที่ ครม.มีมติให้กู้และใช้งบประมาณแผ่นดินผสมกัน คือให้กู้ 1.54 หมื่นล้านบาท และใช้งบแผ่นดิน 700 กว่าล้านบาท กลายมาเป็นต้องมากู้ 1.37 หมื่นล้านบาท แล้วใช้งบประมาณแผ่นดินอีกกว่า 2,400 ล้านบาท แปลว่ามูลค่าโครงการนี้ยัดไส้เงินทอนหรือไม่

นายเอกราช ระบุว่า แท้จริงแล้วมูลค่าโครงการอาจไม่ได้สูงถึง 1.54 หมื่นล้านบาท เพราะด้วยระดับธนาคาร AIIB เขาก็คงไม่ได้ปล่อยกู้ง่ายๆ บอร์ดเขาไม่สามารถที่จะถูกกดดันทางการเมืองจากใครได้ เขาก็ปล่อยเงินตามความเหมาะสมของโครงการ พอกองทัพเรือยัดไส้ไปเยอะๆ จึงโดนตัดเหลือ ได้รับอนุมัติเชิงคอนเซ็ปต์แค่  1.37 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เท่ากับว่ายัดไส้มา 2,400 ล้านบาทใช่หรือไม่ ตนต้องตั้งคำถามต่อนายกฯ และนายสุทินว่าทราบเรื่องราวเหล่านี้หรือไม่ โดยขอให้นายสุทินเปิดเผยเอกสารว่าทำไมประเทศไทยถูกปรับลดเงินกู้จาก AIIB และ เปิดเผยเอกสารรายละเอียดโครงการให้ภาคประชาชนได้ตรวจสอบด้วย

วันนี้นายสุทินได้เป็นรัฐบาลสมใจ มานั่งบริหารคุมกลาโหมเอง ไฉนวันนี้ท่านมีท่าทีเปลี่ยนไป หรือว่าท่านมีมือที่มองไม่เห็นคุมท่านอยู่ แต่ตนเชื่อว่าท่านคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่เป็นหุ่นเชิดให้ใคร อยากให้ท่านแสวงหาจุดร่วมที่ชัดเจนก่อนว่าจะเอาอย่างไรกับนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน กลาโหมที่อยู่ภายใต้พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมในวันนั้นสู่ สุทิน คลังแสง ในวันนี้มีอะไรที่เป็นความหวังได้บ้าง เท่าที่ดูมาท่านสุทินลอกการบ้านพล..ประยุทธ์มาหรือไม่ ตนไม่สามารถเห็นด้วยกับร่าง พ...นี้ได้ ท่านต้องปรับเปลี่ยนและบริหารกองทัพให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง เพราะสุดท้ายจุดมุ่งหมายในการทำงานของเราไม่ได้มีแค่พวกเราในนี้หรือพวกท่านที่อยู่ในกระทรวง แต่คือประชาชนที่เลือกเรามา จึงต้องบริหารงบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด นายเอกราช กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo