นายกฯ ยินดี ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ผ่านสภาในวาระแรก พร้อมส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพที่ทุกคนพึงได้รับอย่างเสมอภาค
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง LGBTQIA+ ทุกท่านที่ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ได้ผ่านการโหวตวาระที่หนึ่งด้วยคะแนนท่วมท้น วันนี้ ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นแล้วครับ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรับหลักการร่าง พ.ร.บ. ในครั้งนี้ ที่ประชุมสภาฯ ลงคะแนนเห็นด้วยถึง 369 เสียง โดยมีหลักการสำคัญคือ การรับรองการสมรสสำหรับบุคคลสองคนที่จะครอบคลุมบุคคลทุกเพศ จากเดิมที่อนุญาตให้แต่เฉพาะชาย-หญิง จดทะเบียนสมรสได้เท่านั้น
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่องในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายรับรองเพศสภาพ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride และส่งเสริมงาน Pride Parade รวมทั้งการขยายสิทธิบัตรทองเพื่อคนข้ามเพศ
อีกทั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังได้หารือและพบปะกับบุคคลสำคัญด้าน LGBTQIA+ และสมาชิกประธานผู้บริหารของ InterPride ซึ่งพร้อมเสนอให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride Event ในปี 2028 อีกด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลคำนึงถึงการสร้างความเท่าเทียมในสังคมเป็นหลักสำคัญ โดยเชื่อมั่นว่า ประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่พึงได้รับอย่างเสมอภาค ทุกเพศสภาพ เพศวิถี มีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน
การลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ และสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และภาคประชาชน ให้เป็นกฎหมายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
ปัจจุบันมีการอนุญาตให้ใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว ใน 34 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ซึ่งเมื่อ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของไทยมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นลำดับที่ 35 ของโลก และเป็นแห่งที่ 3 ในเอเชีย ต่อจาก ไต้หวันและเนปาล ที่อนุญาตให้ใช้กฎหมายดังกล่าวได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มติสภา 369 ต่อ 10 เสียง รับหลักการ ‘สมรสเท่าเทียม’
- ‘เศรษฐา’ ให้คำมั่นสนับสนุน ‘สมรสเท่าเทียม’ ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพทุกคนในสังคมไทย
- ครม. ไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ชงสภาฯ เคาะ 21 ธ.ค.นี้