“ไพศาล” ชำแหละ “ปชป.” สถานการณ์ 2 ก๊ก 3 กั๊ก จับตาดาวดวงเด่นกำลังเจิดจ้าบนขอบฟ้า
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Paisal Puechmongkol” ระบุว่า…ปชป. ในสถานการณ์ 2 ก๊ก 3 กั๊ก
1.ประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ปฐมเหตุเกิดจากการให้สัญญากับประชาชนในการเลือกตั้ง 2562 ว่าไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯแต่ในค่ำคืนของการเลือกตั้ง ก็มีมือดีแอบดอดไปเจราจาร่วมตั้งรัฐบาล โดยเจรจากับลุงขอตำแหน่งประธานรัฐสภา รองนายกฯ และรัฐมนตรีเกษตร จากนั้นก็เข้าร่วมรัฐบาล ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่อาจมองหน้าประชาชนได้ จึงลาออกจากหัวหน้าพรรค และ สส. ปล่อยให้เขาว่ากันไป โดยนายอภิสิทธิ์ไม่ปริปากต่อว่าต่อขานเลยแม้แต่คำเดียว และล่าสุดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจในพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรค และมีนักการเมืองของพรรคที่ประชาชนศรัทธาได้ลาออกตามไปอีกหลายคน
2.นายชวน หลีกภัย ไม่ลาออก และตั้งข้อสังเกตว่าไม่คิดว่านายจุรินทร์ จะนำพรรคมาถึงจุดนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก เพราะช่วงที่นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรค นายชวนก็ได้ร่วมวงไพบูลย์ด้วย ไม่เคยปริปากต่อว่าต่อขานเลยแม้แต่คำเดียว แล้วไฉนจึงมาตั้งข้อสงสัยในวันนี้ว่า ไม่คิดว่านายจุรินทร์จะพาพรรคประชาธิปัตย์มาถึงทุกวันนี้! และหลังจากเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว นายชวนก็ได้เตือนว่า อย่าให้ใครเอาพรรคประชาธิปัตย์ไปทำมาหากิน ใครหนอที่จะเอาพรรคประชาธิปัตย์ไปทำมาหากิน และคำพูดนี้พุ่งเป้าไปที่ใคร หมายถึงใคร
3.หัวหน้าพรรคคนใหม่เคยสัญญาต่อประชาชนว่า ถ้าพรรคได้รับเลือกตั้งน้อยลงกว่าเดิมก็จะวางมือทางการเมือง แต่ผลเลือกตั้งเมื่อปรากฏแล้วว่าได้ สส. น้อยกว่าเดิมกลับไม่วางมือทางการเมือง และเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย ปรากฏการณ์เช่นนี้ถ้าเทียบกับการตระบัดสัตย์ในการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2562 ก็เป็นแค่มีคนไม่รักษาคำพูดเพียงคนเดียว ความร้ายแรงคงจะเทียบไม่ได้กับการเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อปี 2562
4.ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์โดยการนำของหัวหน้าพรรคคนใหม่จะเข้าร่วมกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเมื่อสามารถร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ปี 2562 ได้ ทำไมจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้
5.ประชาธิปัตย์วันนี้จึงแตกออกเป็น 2 ก๊ก 3 กั๊ก ก๊ก 1 ออกจากพรรคไปแล้วจะเดินหน้าไปหนใด ต้องติดตามกันต่อไป
แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ก็มี 2 กั๊ก คือ กั๊กของหัวหน้าพรรคคนใหม่ กับกั๊กของนักการเมืองหน้าเก่า และคนหนุ่มสาวบางกลุ่มที่ต้องการต่อสู้ภายในพรรค เพื่อนำพรรคกลับคืนสู่อุดมการณ์ของพรรคต่อไป
ซึ่งต้องถือว่านักการเมืองหนุ่มสาวกลุ่มนี้ คืออนาคตที่แท้จริงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะทอแสงเจิดจ้าขึ้นในอนาคต และเชื่อว่าคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ก็ต้องพึ่งพาอาศัยคนหนุ่มสาวกลุ่มนี้ เพราะนี่คือหนทางรอดของพรรคในทางการเมืองยุคปัจจุบัน ใครจะเป็นศูนย์กลางการนำของกลุ่มคนเลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ อีกไม่นานคงจะได้เห็น จับตาดาวดวงเด่นของพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ที่กำลังเจิดจ้าบนขอบฟ้าแล้ว “มาดามเดียร์”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ บินประชุมโตเกียว! ยัน 314 เสียงพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น!
- ‘อนุทิน’ ย้ำจุดยืนชัดเจน!! พรรคภูมิใจไทยไม่แตะ ม.112
- ‘บิ๊กป้อม’ โผล่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันสบายดี!!
