Politics

 ‘รังสิมันต์’ เสนอ ‘กระดุม 5 เม็ด’ ยกระดับคุณภาพชีวิตตำรวจ

 รังสิมันต์เสนอกระดุม 5 เม็ดหวังลดคอร์รัปชั่นยกระดับคุณภาพชีวิตตำรวจ จี้นายกฯ ควรแก้ปัญหา ไม่ใช่เข้าร่วมกับปัญหา

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลง Policy Watch ประเด็น “หยุดระบบตั๋วและปฏิรูปตำรวจไทย” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวช่วงหนึ่งในการประชุม ส.ส. พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สรุปใจความได้ว่ามีการขอตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจ โดยในช่วงต้นระบุว่า ปัญหาตั๋วที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มีมาอย่างยาวนาน และสังคมพูดถึงมาโดยตลอด ปัญหาที่เป็นต้นตอไม่ว่าจะการซื้อขายตำแหน่ง การใช้เส้นสาย เมื่อนายกฯ พูดออกมาอย่างชัดเจนในที่ประชุม นี่คือโอกาสที่เราจะเสนออย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาตั๋วตำรวจ เพื่อให้องค์กรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ตำรวจ

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนมามากแล้ว ที่จะนำไปสู่การทบทวนและสังคยนาตำรวจอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาพรรค ก.ก. และพรรค พท. เคยทำงานเป็นฝ่ายค้านร่วมกัน พวกเรายืนยันว่าต่อต้านระบบอุปถัมภ์ นายเศรษฐาเองก็เคยกล่าวไว้ตอนหาเสียง ว่าระบบเส้นสายจะต้องถูกจัดการ กลายเป็นว่าวันนี้เราเห็นคำพูดที่พูดได้อย่างหน้าชื่นตาบาน พูดอย่างเป็นธรรมชาติจากนายเศรษฐาเกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์ นี่คือเรื่องใหญ่ที่แสดงให้เห็นว่า ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตำรวจไม่ได้หมดไป และสามารถพูดออกมาจากปากของนายกฯ โดยไม่รู้สึกผิด วันต่อมา คำชี้เแจงหรือคำอธิบายก็ไม่ได้สะท้อนถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ว่าสิ่งที่นายเศรษฐากล่าวไปนั้นเป็นการสะท้อนระบบอุปถัมภ์ คนที่มีอำนาจอย่างนายกฯ ควรแก้ปัญหา ไม่ใช่เข้าร่วมกับปัญหา จนถึงวันนี้เราก็เห็นปรากฏการณ์ใหม่ คือการเงียบ ไม่ออกมาชี้แจง สิ่งเหล่านี้พวกท่านแค่หวังว่าหากไม่พูดอะไรต่อ สังคมก็จะสนใจเรื่องอื่นเอง เราพูดกันหลายครั้งในปัญหานี้ ตนคงไม่หวังกับรัฐบาลนี้ในการแก้ไขปัญหาตำรวจ หากเราอยากแก้ไขจริงๆ เราต้องมีเจตจำนงในการแก้ปัญหา ตนคิดว่านี่คือโอกาสที่เราจะพูดเรื่องนี้และปักหมุดทางความคิดด้วยกระดุมทั้ง 5 เม็ด ผู้มีอำนาจที่จะแก้ได้ อาจจะไม่ใช่นายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา แต่หากเรามีบทสรุปของสังคม ว่ากระดุม 5 เม็ดที่จะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจมีอะไรบ้าง

กระดุมเม็ดแรก ต้องทำให้การเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาจากความสามารถ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจ โดยมี 3 ขั้นตอนดังนี้ หนึ่ง ต้องให้รองผบ.ตร. ที่ต้องการเป็น ผบ.ตร. สมัครเข้ามาพร้อมแฟ้มผลงาน เพื่อให้กรรมการใช้ดุลยพินิจและความเห็นได้ ว่ารองผบ.ตร. คนใดมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ สอง เปิดโอากาสให้รองผบ.ตร. ที่จะสมัครเข้ามาเป็น ผบ.ตร. แสดงวิสัยทัศน์แก่สังคมเห็น สาม สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์โดยให้มีระบบยืนยันชัดเจนว่าเป็นตำรวจ แต่ไม่เปิดเผยตัวตน ให้ตำรวจสมัครใช้บริการ เพื่อสามารถโหวตได้ว่า รองผบ.ตร. คนใดสมควรขึ้นเป็น ผบ.ตร. ซึ่งการโหวตครั้งนี้อาจไม่ใช่คะแนนทั้งหมดที่ตัดสินได้ 100 เปอร์เซ็นต์ทันที อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนเพื่อเป็นการส่งเสียงล่วงหน้ามาถึงนายกฯ ว่าใครคือคนที่ตำรวจส่วนใหญ่อยากให้เป็น ผบ.ตร. ทั้งสามขั้นตอนนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจฉบับปัจจุบัน

S 39092712 0

กระดุมเม็ดที่สอง ต้องกระจายอำนาจของตำรวจเพื่อให้จังหวัดและประชาชนเข้ามามีบทบาท วิธีนี้อาจจะใช้เวลาเพราะต้องแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจ หากเปิดให้จังหวัดและประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจ เขาจะรู้ได้ว่าตำรวจที่ย้ายเข้ามามีคุณภาพหรือไม่ ไม่ใช่การนำตำรวจที่ไม่มีคุณภาพย้ายไปอยู่พื้นที่อื่น กลายเป็นว่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นเป็นกระโถน หากประชาชนได้ตรวจสอบและกำหนดทิศทางผ่านการกระจายอำนาจ ประชาชนจะสามารถตรวจสอบได้ว่า ตำรวจนายนั้นๆ มีประวัติอย่างไร เพราะในบางพื้นที่มีปัญหาอาชญากรรมไม่เหมือนกัน นี่คือทิศทางที่เราอยากเห็น

กระดุมเม็ดที่สาม นายกฯ ต้องไม่ทำให้ตำรวจหิว อย่าทำให้ตำรวจต้องหาเงินเพื่อความอิ่มท้อง และความสุขสบายของครอบครัว การศึกษาในต่างประเทศระบุว่า หากต้องการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดการคอร์รัปชั่นตำรวจ ต้องทำให้ตำรวจระดับล่างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขั้นต่ำที่สุดคือการมีอุปกรณ์ที่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ ตนเคยคำนวณว่า หากเราจะแก้ปัญหาอย่างน้อยที่สุด เอาแค่ตำรวจระดับล่างพออยู่ได้ในขั้นต้น การเติมเงินเข้าไป 4 พันล้าน ก็พอจะช่วยให้ตำรวจเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องควักเนื้อแล้ว หากรัฐบาลต้องการปราบไม่ให้เกิดการทุจริตในองค์กรตำรวจ ต้องไม่ทำให้ตำรวจหิว ต้องยกระดับงบประมาณ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดไปและนำเงินเหล่านั้นให้ตำรวจระดับล่าง

กระดุมเม็ดที่สี่ รัฐบาลต้องส่งเสริมให้ตำรวจชั้นประทวนมีการเติบโตที่มากขึ้น โดยการส่งเสริมให้ตำรวจชั้นประทวนที่ยังไม่จบปริญญาตรี สามารถเข้าถึงและศึกษาต่อจนจบปริญญาตรีได้ และขั้นตอนต่อมา คือการส่งเสริมให้เป็นนายร้อย ทุกวันนี้หากเราต้องการนายร้อยใหม่ๆ เรามักจะรับจากบุคคลภายนอกก่อน แต่ตำรวจชั้นประทวน ที่บางส่วนจบปริญญาตรีแล้วไม่มีโอกาส ทำไมเราไม่นำคนกลุ่มนี้ที่รู้ระบบงานตำรวจอยู่แล้วเข้ามาก่อน หากตำรวจระดับล่างที่ต้องการเป็นนายร้อยต้องรออายุ 53 ปี ถึงจะติดนายร้อย ตนเชื่อว่าการดำเนินการเช่นนี้จะทำให้ตำรวจระดับล่างโอกาสเติบโต และมีความหวังในหน้าที่การงานยิ่งขึ้น

กระดุมเม็ดที่ห้า รัฐบาลต้องเลิกให้ตำรวจทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น อย่างการยกโขยงไปเป็นขบวนของผู้บังคับบัญชาที่ใช้ตำรวจมากเกินกว่าเหตุ เราต้องลดภาระของตำรวจเหล่านี้ให้น้อยลง โดยให้ตำรวจเหล่านี้มีจุดมุ่งหมาย คือการทำงานเพื่อประชาชน

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทั้งหมดที่ตนพูดมาสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ตนยอมรับว่ากระดุมทั้ง 5 เม็ดต้องใช้เวลา แต่ถ้าเราไม่เริ่มลงมือเลย ตำรวจก็จะเป็นเช่นนี้ ปัญหาขององค์กรตำรวจไม่ใช่ปัญหาของตำรวจทั้ง 2 แสนคน แต่เป็นปัญหาของเราทั้งหมด กลายเป็นว่าหากประชาชนอยากให้คดีมีความคืบหน้าต้องพึ่งพาสื่อ พึ่งพาโซเชียล พึ่งพาอินฟลูเอนเซอร์ท่ีมีปากเสียงในสังคม หากไม่พึ่งพาคนเหล่านี้คดีของประชาชนจะไม่ได้รับการตอบสนอง ตนขอใช้โอกาสนี้ในการเรียกร้อง ว่ากระดุมทั้ง 5 ข้อนี้ ใครที่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาสามารถนำไปใช้ได้ เราอยากเห็นเจตจำนงของท่านในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้แล้ว อย่าให้องค์กรตำรวจเป็นอย่างวันวานที่ผ่านมาอีก 

ขอบคุณที่มา แนวหน้า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo