Politics

‘ฮามาส’ ยืนยันปล่อยตัวประกันคนไทย แต่ไม่ระบุวัน เกรงอาจถูกโจมตี

“คณะที่ปรึกษาวันนอร์” เผยกลุ่มฮามาส ยืนยันปล่อยตัวประกันแน่ แต่ไม่ระบุวัน เกรงอาจถูกโจมตี ขอให้มั่นใจคนไทยปลอดภัย วอนสังคมพิจารณาข้อมูลรอบด้าน

นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ แถลงข่าว เกี่ยวกับการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันคนไทย จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล

ปล่อยตัว

นายอารีเพ็ญ กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะ ได้เดินทางไปพบตัวแทนที่ประเทศอิหร่าน วันที่ 26 ตุลาคม 2566 โดยได้พบกับแกนนำของกลุ่มฮามาส และตัวแทนจากอิหร่าน แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ซึ่งใช้เวลาพูดคุย 2 ชั่วโมง โดยกลุ่มฮามาส เข้าใจว่าการมาครั้งนี้มาในนาม ประธานรัฐสภาของประเทศไทย และความรู้สึกของมุสลิมด้วยกัน เพื่อขอให้ปล่อยตัวคนไทย เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้

นายอารีเพ็ญกล่าวว่า กลุ่มฮามาสได้บอกว่า ตัวประกันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีไม่เดือดร้อน แต่ไม่สามารถกำหนดวัน-เวลาที่จะปล่อยตัวได้ เนื่องจากอาจเกิดเหตุอันตราย จากการโจมตีของอิสราเอลขึ้นได้ โดยกลุ่มฮามาสหวังอยากให้ตัวประกันเหล่านี้บอกกับสังคมโลกว่า อยู่กับฮามาสโหดร้ายจริงหรือไม่ จึงพยายามเพื่อให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัย และกลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข

ทั้งนี้ ได้มอบรายชื่อให้คนไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันไปแล้วทั้ง 22 คน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการยืนยันกับทางการอิหร่านว่ารายชื่อตรงกันหรือไม่

จากนั้น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ได้เข้าพบกับ อยาตุเลาะ อัดตารี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีและ ประธานสมัชชาองค์กรปาเลสไตน์ แห่งสำนักประธานาธิบดีอิหร่าน , ดร.ระมีฮียาน เลขาธิการใหญ่องค์การช่วยเหลือประชาชาติปาเลสไตน์แห่งชาติ , ดร.รูวัยรอน ประธานสมาพันธ์ พิทักษ์เยาวชนปาเลสไตน์ และต่อต้านอิสราเอลแห่งชาติ ใช้เวลาพูดคุย 3 ชั่วโมง ซึ่งได้มีการรับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือ เพราะประเทศไทยมีคุณอนันต์ต่อมุสลิมทั่วโลกที่อยู่ประเทศไทย และประเทศอิหร่านก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย

ภาพถ่ายหน้าจอ 2566 11 01 เวลา 13.35.49

นอกจากนี้ ทราบว่า มีการรายงานเรื่องดังกล่าวต่อประธานาธิบดีอิหร่าน จากนั้นได้มีหนังสือไปยังบุคคลสำคัญของอิหร่าน 4 คน พร้อมกับประสานไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านและได้เข้าพบกับหัวหน้าของกลุ่มฮามาส แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดของการพูดคุย

ทั้งนี้ ยอมรับว่าไม่ได้มีการพูดคุยกับคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน เนื่องจาก คลื่นโทรศัพท์หากมีการใช้ก็จะมีการยิงระเบิดเข้าทันที ซึ่งทางกลุ่มฮามาสได้เชิญเราให้เข้าไปพบตัวประกัน  แต่เราไม่เข้าไปเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ส่วนกรอบเวลาที่จะปล่อยตัวคาดว่าจะเร็วที่สุด เพราะความปลอดภัยของภาวะสงคราม ถ้าบอกว่าจะปล่อยเมื่อไหร่ ระเบิดจะลงทันที และอาจทำให้สังคมโลกมองว่ากลุ่มฮามาสทำร้ายตัวประกัน แต่ตนคิดว่าการปล่อยตัวประกันคงไม่นานเกินรอ ซึ่งคณะประสานงานของประธานรัฐสภาก็ได้มีประจำการอยู่ที่ประเทศอิหร่านเพื่อคอยประสานงานหากมีการปล่อยตัวคนไทยออกมา ประธานรัฐสภาก็จะเดินทางมารับด้วยตนเอง ซึ่งถ้าหากปล่อยตัวที่ประเทศอิหร่านก็จะเป็นการสะดวก

พร้อมย้ำว่า การทำหน้าที่ในครั้งนี้ไม่ได้ข้ามหน้าข้ามตาใคร แต่เป็นการช่วยเหลือตามศักยภาพ ซึ่งการเดินทางไปประเทศอิหร่านนั้น เพราะประเทศอิหร่านเป็นผู้มีอิทธิพลต่อขบวนการฮามาส และเป็นแหล่งสำคัญที่สนับสนุนกลุ่มฮามาส เมื่อคนที่มีบุญคุณใหญ่หลวงขออะไรไป เขาก็น่าจะไม่ปฏิเสธ

“ตนมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาพูดคือความจริง เราเป็นกลุ่มแรกที่ไปพูดคุยกับกลุ่มฮามาสอย่างเป็นทางการ ถ้าหากคนไทยได้ปล่อยตัวก็เป็นผลงานของคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่ผลงานของคนใดคนหนึ่ง เราจะไม่ก้าวก่ายรัฐบาลในการทำหน้าที่ เราทำหน้าที่ในตัวแทนประธานรัฐสภาเท่านั้น ที่เข้าไปพูดคุยโดยตรง” นายอารีเพ็ญ กล่าว

ขณะที่นายมุข กล่าวว่า เราต้องให้เกียรติกลุ่มฮามาสว่าพูดความจริง เพราะถ้าจะมาพูดอย่างทำอย่างก็ไม่จำเป็นจะต้องให้เข้าพบตั้งแต่แรก ดังนั้นการให้เข้าพบ ก็แสดงว่ายินดี รับและพร้อมที่จะพูดความจริง

นั่นคือตัวประกันคนไทยอยู่ในความปลอดภัยดีแล้ว เราก็ต้องเชื่อในศักดิ์ศรี ของความเป็นมนุษย์ และนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ ที่ต้องยึดมั่นในศาสนาจึงจะไม่พูดโกหก พร้อมฝากสื่อและประชาชนเพราะมีการพูดโจมตีฮามาส ปาเลสไตน์ และอิหร่าน จึงอยากให้ฟังหลายฝ่ายเพื่อวิเคราะห์ความเป็นจริงว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถยืนยันได้ 1,000 % หรือ 10,000 เปอร์เซ็นต์ แต่ตนเชื่อว่า เมื่อวันที่คนไทยกลับมาปลอดภัยทั้งหมดคือคำตอบ และให้สังคมพิจารณาว่า คณะพูดคุยเดินทางถูกต้องแล้วหรือไม่ แต่ถ้าท้ายที่สุดคนไทยไม่ถูกปล่อยตัว ก็จะได้รู้ว่าที่ทำมาไร้ผลและไม่ถูกต้อง ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่สำคัญท้ายที่สุดคือการนำคนไทยกลับมาเท่านั้นเอง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo