Politics

‘รมว.กลาโหม’ แจงสภาปมน้ำมันทหารหาย 2 แสนลิตร ลั่นไม่ปล่อยแน่!!

“รมว.กลาโหม” ตอบกระทู้ “ก้าวไกล” ปมน้ำมันทหารหาย 2 แสนลิตร ลั่นไม่ปล่อยแน่ พร้อมเอาคนผิดมาลงโทษ ชี้สัญญาเรือดำน้ำหมดสัญญาเดือนธันวาคม ยกเลิกก่อนไม่ได้

ที่รัฐสภา ในการ ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เป็นประธานการประชุม นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงของทหารหาย 2 แสนลิตร โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ชี้แจง

รมว.กลาโหม

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เรื่องน้ำมันดีเซลหายคิดเป็นมูลค่า 6 ล้านบาท โดยประมาณ เชื่อว่ากองทัพรู้ว่าใครเป็นคนกระทำผิด ไม่ใช่ทหารเกณฑ์แต่เป็นผู้บังคับบัญชาแน่นอน และมีน้ำมันหายทุกปี จึงอยากทราบว่าจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร นอกจากนี้ ขอสอบถามกรณีผลการเจรจาเรื่องเรือดำน้ำที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปพูดคุยกับเยอรมันมาว่าเป็นอย่างไร และเห็นว่าเราควรจะยกเลิกสัญญาทวงเงินกับจีน เพราะเขาไม่สามารถทำตามสัญญาหาเครื่องยนต์เยอรมันมาใส่ในเรือดำน้ำให้เราได้ อีกทั้งยังพบว่าเครื่องยนต์ของจีนมีข้อบกพร่องหลายจุด ทั้งระบบสื่อสาร ไม่สามารถดำน้ำบริเวณอ่าวไทยที่ลึก 45 เมตรได้

นายสุทิน ชี้แจงว่า ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่าทหารตรวจสอบภายในกันเองอยู่แล้ว ผลมาถึงอย่างไรก็ค่อยว่ากัน ซึ่งนี่คือคำขู่โดยมารยาท ยืนยันว่าในฐานะรมต.จะไม่ปล่อยละเลย โดยในสัปดาห์หน้าจะมีสรุปผลจากทาง ผบ.ทบ. เราจะนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัย ในไม่นานนี้แน่นอน

รมว.กลาโหม

“ในยุคของผมจะมีมาตรป้องกันคือสอบสวนนำคนผิดมาลงโทษ และรื้อระบบตรวจสอบภายใน โดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบระดับหน่วย ตรวจสอบกำลังส่งบำรุง ส่งชุดตรวจจากจเรทหาร และไม่ชุดตำรวจพิเศษตรวจสอบอีกครั้ง” นายสุทิน กล่าว

สำหรับเรื่องเรือดำน้ำ ตอนนี้ทาง ผบ.ทร. สรุปแล้วว่าจะเดินหน้าต่อ โดยตอนนี้ก็กำลังรอว่าเรื่องจะมาถึงผมเมื่อใด สัญญาเรือดำน้ำมีกรอบเวลาอยู่เข้าใจว่าจะหมดในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ดังนั้น ผมจะไม่รีบด่วนสรุป แต่จะรอฟังการสรุปจาก ผบ.ทร. ก่อนว่าทำไมเขาถึงเชื่อมั่นเครื่องยนต์ของประเทศจีน

รมว.กลาโหม

“เราจะดำเนินการช้าหรือเร็วก็ต้องอยู่ในกรอบระยะเวลาสัญญา จะยกเลิกสัญญาก่อนเวลาก็ไม่ใช่” นายสุทิน กล่าว

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเจรจากับประเทศเยอรมันนั้น เป็นมาตรการเสริม ทางใดที่รักษาประโยชน์ของประเทศมากที่สุด ผมเข้าใจในภาวะปกติจะเจรจากับผู้ขายไม่ได้ แต่ขณะนี้ไม่ปกติ เพราะทราบว่าจะไม่เกิดตามสัญญาทำให้ไทยเสียประโยชน์ ดังนั้น ทางใดที่เป็นประโยชน์จึงต้องดำเนินการ เพื่อไม่ให้กองทัพเสียประโยชน์ ส่วนรายละเอียดที่นายกฯ ไปเจรจาผมยังไม่ทราบรายละเอียด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK