Politics

‘อดิศร’ ถาม ‘หมออ๋อง’ ผิดอะไรจะขับออกจากพรรค

“อดิศร” ถาม “หมออ๋อง” ผิดอะไรจะขับออกจากพรรค ยันเป็นสิทธิ์นั่งรองปธ.สภาฯ ต่อหรือไม่ หากนั่งต่อก็ไม่ได้ผู้นำฝ่ายค้าน

วันนี้ (18 ก.ย.66) ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อเปิดทางให้ส.ส. ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนไม่อยากไปก้าวก่ายแทรกแซงพรรคการเมืองที่มีโอกาสเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เพราะเป็นกิจการภายในของพรรคนั้น แต่ติดที่รัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดว่าพรรคการเมืองที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านต้องไม่เป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้งนี้ แม้พรรคก้าวไกล จะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว แต่หากยังมีรองประธานสภาฯ คนที่ 1 อยู่ ก็จะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้ ซึ่งจะตกไปอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเลือกหัวหน้าพรรคไม่ได้

หมออ๋องผิด

นายอดิศร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตำแหน่งรองประธานสภาฯ เมื่อมีการเลือกไปแล้วก็ถือว่าสิ้นสุด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเป็นสิทธิ์ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่จะอยู่หรือไป ตนเป็นคนหนึ่งที่เลือกนายปดิพัทธ์เป็นรองประธานสภาฯ อย่างไรก็ตาม ก็แล้วแต่พรรคก้าวไกลคิด  ตนไม่แทรกแซง

เมื่อถามว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯ เดิมทีเป็นข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขณะนี้พรรคก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน นายอดิศร กล่าวว่า เลือกไปแล้วเลือกไปเลย ในอดีตนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็เคยเป็นประธานรัฐสภาในขณะที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน ก็สามารถทำหน้าที่ได้ ไม่กระทบกระเทือนอะไร

เมื่อถามต่อว่า ไม่ได้ติดใจอะไรใช่หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของท่าน หากให้ความเห็นไป เดี๋ยวจะหาว่าเราแซะอะไร แต่ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ มีความสำคัญตามนัยยะของรัฐธรรมนูญ หากขาดตำแหน่งนี้ไปโอกาสที่จะคัดสรรองค์กรอิสระ หรือทำหน้าที่ต่างๆ ในคณะผู้นำฝ่ายค้านก็จะเป็นรัฐบาลเงาก็จะขาดหายไป

“ผมไม่แทรกแซงว่าท่านจะไปอยู่ที่ไหน เป็นสิทธิ์ส่วนตัว ด้วยความเคารพ อย่าดึงผมไปอยู่ในความขัดแย้งของท่าน” นายอดิศร กล่าว

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมองการทำงานร่วมกันอย่างไร ในเมื่อนายปดิพัทธ์ยังอยู่กับฝ่ายค้าน นายอดิศร กล่าวว่า “หากนายปดิพัทธ์เป็นรองประธานสภาฯ อยู่ พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน”

เมื่อถามต่อว่า อาจจะมีการขับนายปดิพัทธ์ไปอยู่กับพรรคอื่น นายอดิศร กล่าวว่า “ท่านมีความผิดอะไร ผมถามหน่อย คุณปดิพัทธ์มีความผิดอะไรถึงขับออกจากพรรค”

ภาพถ่ายหน้าจอ 2566 09 18 เวลา 11.07.40

นายอดิศร กล่าวต่อว่า ข้อบังคับของทุกพรรคระบุว่า หากจะขับคนใดคนหนึ่งออกจากพรรคต้องมีความผิดรุนแรง การที่นายปดิพัทธ์เป็นรองประธานสภาฯ ตนยังหาเหตุผลที่จะขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรคไม่ได้ ยกเว้นมาเล่นละครซ่อนหากัน ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้น และย้ำว่านายปดิพัทธ์ไม่มีความผิดอะไรเลย จะไปขับออกจากพรรคได้อย่างไร แต่หากจะย้ายพรรคก็เป็นสิทธิ์ของนายปดิพัทธ์ ตนไม่ไปก้าวล่วง เพราะกฎหมายเปิดช่องอยู่ ว่าสามารถทำได้ แต่ตนไม่ขอวิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตอนที่รวมเสียงได้ 312 เสียง พวกเราก็เลือกนายปดิพัทธ์เป็นรองประธานสภาฯ โดยไม่ได้คิดว่าจะย้อนให้คนอื่นเป็น และนายปดิพัทธ์ก็ทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ดี ตนขอยกย่อง

เมื่อถามถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทั้ง 35 คณะ นายอดิศร กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของวิป หน้าที่ของกมธ.คือต้องแบ่งสรรปันส่วนกันระหว่างส.. ซึ่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ก็บอกว่าหากตกลงกันไม่ได้ก็ให้จับฉลาก จะได้ทำงานกันเสียที แต่ทั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo