Politics

‘นายกฯ’ ขึ้นเหนือ! ตรวจราชการ ‘เชียงราย-เชียงใหม่’ ไม่รู้เรื่อง ‘เพิ่มพูน’ ขอดูก่อน

“นายกรัฐมนตรี” ขึ้นเหนือ! ตรวจราชการ “เชียงราย-เชียงใหม่” 15-17 กันยายน ไม่รู้เรื่อง “ป.ป.ช.” ชี้มูล “พล.ต.อ.เพิ่มพูน” ขอดูรายละเอียดก่อน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง และนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยนายกฯ มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2566

นายกรัฐมนตรี

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่า ภายในสองสัปดาห์จะชัดเจนเรื่องที่มาของงบประมาณในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า ใช่ครับ อีก 2 สัปดาห์จะมีความชัดเจน ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีกลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 เนื่องจากมี ขบวนการช่วยเหลือ ในการเปลี่ยนพยานหลักฐาน ด้านความเร็วรถมีผู้ถูกกล่าวหารวม 15 ราย ซึ่งในกรณีของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่ง (ผบ.ตร.) ปัจจุบันเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการการนั้น ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่อง ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่เนื่องจากเห็นว่ามิใช่ เป็นความผิดร้ายแรงตามมาตรา 64 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 นายเศรษฐา กล่าวว่า ผมยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว หากมีเรื่องส่งมาต้องขอดูเรื่องทั้งหมดก่อน จึงยังไม่ได้ทำความเข้าใจว่ามีการตัดสินอย่างไร มีคำเสนอแนะอย่างไร มีวิธีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร คงต้องขอดูเรื่องเสียก่อน

นายกรัฐมนตรี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะมีผลกระทบหรือไม่ หากเรื่องดังกล่าวส่งมาให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาโทษทางวินัยรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างที่บอกแล้วว่าผมไม่ทราบเรื่อง ยังไม่ได้เห็นตัวเอกสาร ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีด้วยนิดหนึ่ง ใจเย็น

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 วานนี้ (14 ก.ย.) โดยเฉพาะประเด็นเรื่องคอนเน็คชั่น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องคอนเน็คชั่นหรือเรื่องการใช้สิทธิ์ใด ซึ่งผมเห็นว่า วปอ. เป็นสถาบันที่มีเกียรติ เป็นแหล่งฟูมฟักกำลังสำคัญของประเทศชาติ ก็อยากจะให้ดูให้ดีด้วยว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่เป็นแค่คอนเน็คชั่นอย่างเดียว ที่มาใช้ระหว่างพวกกันเอง อยากให้มาดูแลพี่น้องประชาชนด้วย โดยใช้คอนเน็คชั่นเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก การใช้ทรัพยากรของรัฐก็อยากให้ใช้ให้มันถูกต้อง

นายกรัฐมนตรี

“ไม่ใช่แค่มีสิทธิ์อย่างเดียวต้องดูที่หน้าที่และความเหมาะสม เพราะมีคนที่เฝ้าดูกันอยู่หลายคนหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่เขาอยากมีตัวอย่างผู้นำที่ดีก็ขอฝากด้วย ไม่ได้มีอะไรหรอก คงเป็นอะไรที่อาจจะแตกต่างจากคำกล่าวของคนอื่นเท่านั้นเอง แต่ก็เป็นความตั้งใจของตน และเป็น ความหวังดีของตนต่อสถาบัน” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่าแต่การพูดดังกล่าวนายกรัฐมนตรีใช้คำว่าอภิสิทธิ์ชน นายเศรษฐา กล่าวเพียงว่า ครับ

นายกรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 9 คน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการแบ่งส่วนงานแต่อย่างใด ได้พยายามตั้งให้มีครอบคลุมทุกภาคส่วน และจะพิจารณาแต่งตั้งเพิ่มอีก อย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่าอะไรทำได้ผมทำก่อน เช่น ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ก็จะให้มาช่วยดูแลเรื่องกีฬา ก็จะให้ไปดูแลกองทุนที่สนับสนุนกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬา รัฐบาลนี้ยืนยันว่าก็จะทำก่อน เดี๋ยวจะมีรายชื่อเข้ามาเสริมอีก

นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK