General

น้ำท่วมยังไม่แห้ง กรมชลฯ เผยเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง ยกเว้นภาคใต้ วางแผนจัดสรรน้ำรับมือ

กรมชลประทาน เผย 4 ภาคเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง ยกเว้นภาคใต้ ชี้ปริมาณต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมจัดสรรน้ำให้เกษตรกรเพาะปลูกตามแผน

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดี กรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

เข้าสู่ฤดูแล้ง

ทั้งนี้ เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำปัจจุบัน (7 พ.ย. 2565) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 64,099 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84% ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ 40,157 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 77% ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน

ขณะที่เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,803 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 84% ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำใช้การได้ 14,107 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 78% ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล

กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 65/66 ทั้งประเทศ ตามปริมาณน้ำต้นทุนรวม 43,740 ล้าน ลบ.ม. โดยแบ่งเป็น

  • น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม รวม 27,685 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 63% ของปริมาณน้ำต้นทุน
  • เพื่อสำรองน้ำไว้ต้นฤดูฝนปี 66 รวม 16,055 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 37% ของปริมาณน้ำต้นทุน

จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 65/66 ทั้งประเทศไปแล้ว 862 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 4% ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 135 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 2% ของแผนฯ

สถานการณ์น้ำ

ทั้งนี้ ได้เข้าสู่ฤดูแล้งของพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งภาคกลางแล้ว จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ เร่งเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำ พร้อมวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง

พร้อมกันนี้ ให้วางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเฝ้าระวังในจุดเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ที่สำคัญให้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในท้องถิ่น กลุ่มผู้ใช้น้ำ ทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกษตรกรและประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของภาคใต้ ที่ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ขอให้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นำสถิติปริมาณฝนและปริมาณน้ำจากปีที่ผ่านมามาเป็นแนวทางในการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ควบคู่ไปกับการเก็บกัก พร้อมดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo