สตม.แถลงผล 4 คดี 4 ผู้ต้องหา สัญชาติจีน-ไต้หวัน อันเป็นผลการกวาดล้าง ชาวต่างชาติที่เคยก่อคดีแล้ว ใช้ประเทศไทยหลบหนี
วันที่ 27 ตุลาคม 2565 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (เมืองทอง) พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส. สตม. ร่วมแถลงการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงสั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม สืบสวนจับกุม ผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และความผิดตามกฎหมายจำนวน 4 คดี
คดี 1
เป็นการจับกุม นายหลี่ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน โดยประกอบกิจการทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท หลังการจับกุม เ้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนำส่ง กก.3 บก.สส.สตม. ดำเนินการตามกฎหมาย
ผู้ต้องหารายนี้ หลบหนี ซื้อคอนโดอยู่ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย จากเงินที่หลอกลวงมาได้ เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. ถือว่าเป็นผู้ต้องหาคดีทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่ทางตำรวจจีนต้องการตัวไปดำเนินคดี
คดีที่ 2
เป็นการจับกุม นายไฉ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐาน ผลิต จำหน่าย ขนส่งและครอบครองอาวุธปืนกับกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามที่สำนักงานกงสุล (ฝ่ายตำรวจ) ณ นครคุนหมิง ได้มีหนังสือแจ้งมายังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนบก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3
เป็นจับกุมนายต้าลี่ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานฯ”
การจับกุมในคดีนี้ สืบเนื่องจากการขยายผล ผู้เสียหายคนไทยที่ทำงานคอลเซ็นเตอร์แล้วถูกส่งตัวกลับจากประเทศกัมพูชา ได้ให้การว่ามีคนจีนเป็นคนชักชวนและหลอกลวงไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ และมีผู้ต้องหารายนี้เป็นคนสั่งการ ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ ก่อนรวบตัวได้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูล ผู้พิทักษ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดปมสาเหตุ ‘จ่าเบิร์ด’ รัวยิง 9 นัด ในสถานบันเทิง ดับ 1 เจ็บอีก 2
- ปิดเมืองล่า ‘จ่าเบิร์ด’ หลังก่อเหตุยิงคนตาย-เจ็บ กลับเข้าเอาอาวุธปืนยาว M4 พร้อมเสื้อเกราะ
- หมอสอง เปิดใจ หลังโดนจับตัวเรียกค่าไถ่ 5 ล้านกว่า ถูกกระหน่ำยิงใส่รถ